‘SUPER JUNIOR’ ตอกย้ำศักยภาพตำนานแห่งเค-ป๊อปในคอนเสิร์ต ‘SUPER JUNIOR WORLD TOUR - SUPER SHOW 9 : ROAD in BANGKOK’ พร้อมประกาศเตรียมกลับมาอีกครั้งกับอังกอร์คอนเสิร์ต

Last updated: 4 ส.ค. 2565  | 

‘SUPER JUNIOR’ ตอกย้ำศักยภาพตำนานแห่งเค-ป๊อปในคอนเสิร์ต ‘SUPER JUNIOR WORLD TOUR - SUPER SHOW 9 : ROAD in BANGKOK’ พร้อมประกาศเตรียมกลับมาอีกครั้งกับอังกอร์คอนเสิร์ต

         SUPER JUNIOR (ซูเปอร์ จูเนียร์) ตอกย้ำศักยภาพของตำนานแห่งเค-ป๊อป พาผู้ชมร่วมเดินทางครั้งใหม่อันน่าตื่นตาตื่นใจไปกับพวกเขาในคอนเสิร์ต ‘SUPER JUNIOR WORLD TOUR - SUPER SHOW 9 : ROAD in BANGKOK’ (ซูเปอร์ จูเนียร์เวิลด์ ทัวร์ - ซูเปอร์ โชว์ ไนน์ : โร้ด อิน แบงค็อก) ที่ถูกจัดขึ้น 2 รอบการแสดง ในวันเสาร์ที่ 30 (เวลา 18.00 น.) และอาทิตย์ที่ 31(เวลา 16.00 น.) กรกฎาคม 2565 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

         SUPER JUNIOR ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางทะเลสีน้ำเงินจากแท่งไฟ และเสียงเชียร์กระหึ่มของผู้ชม พร้อมจุดพลังความร้อนแรง เปิดฉากคอนเสิร์ตด้วยเพลงแรก ‘Burn the Floor’ ที่เพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้ดวงไฟประกอบการเต้น ต่อด้วยการแสดงความยิ่งใหญ่ระดับตำนานในเพลง ‘The Crown’, ‘SUPER’ และ ‘Mr. Simple’ ก่อนพวกเขาจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในมาดหนุ่มชุดดำสุดเซ็กซี่ ในเพลงใหม่ที่ถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรกในคอนเสิร์ตอย่าง ‘Ticky Tocky’, ‘Paradox’, ‘Mystery’ จากนั้นจึงทักทายผู้ชมอย่างเป็นทางการ

         ชินดงเริ่มต้นด้วยการเผยกับเอลฟ์ (E.L.F.; ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ว่า เมื่อวาน (เสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2565) ตื่นเต้นเกินไปจนเจ็บเข่านิดนึง ก่อนขึ้นเวทีปวดมาก แต่พอเห็นทุกคน ได้ยินเสียงกรี๊ดของทุกคนก็หายแล้ว ก่อนหยอดภาษาไทยว่า "มีความสุขมั้ยครับ พวกเราก็มีความสุขครับ" (ภาษาไทย) ด้านรยออุคถามเอลฟ์ว่านอนหลับฝันดีมั้ย ส่วนตัวเขานั้นนอนหลับไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะตื่นเต้นที่จะได้เจอทุกคนอีกครั้ง ตบท้ายด้วยภาษไทยสุดเด็ดว่า "อยากให้เธอเป็นกิ๊บ จะได้ติดผม" 

         มาถึงหนุ่มหล่อทงเฮทักทายเป็นภาษาอังกฤษว่า Long time no see ก่อนถามเอลฟ์ว่านอนหลับฝันดีมั้ย ตัวเขานั้นนอนหลับฝันดี เมื่อวานที่บอกว่านอนไม่ค่อยหลับก็เพราะตื่นเต้น แต่วันนี้นอนหลับฝันดีมากเลย คอนเสิร์ตวันที่สองนี้เจ้าตัวบอกว่ามีพลังร้อนแรงมากกว่าเมื่อวาน พร้อมมีจดหมายมาฝากเอลฟ์เป็นภาษาไทยว่า "ขอฟังเสียงคนโสดหน่อย" "ขอฟังเสียงคนรักทงเฮหน่อย" "ทงเฮอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีความรักของเอลฟ์" "ผมรักประเทศไทยมากๆ ผมรักเอลฟ์ไทยมากๆ อยากย้ายมาอยู่ประเทศไทย" "ช่วยบอกรักผมหน่อย" "ผมก็รักเหมือนกันนะ" พูดเสร็จก็อ้อนชมเขาหน่อยได้มั้ยเพราะทงเฮรักเอลฟ์ชาวไทยมากที่สุด ก่อนปิดท้าย "ผมรักคุณ"

         มาถึงหนุ่มเสียงดีขวัญใจแฟนๆ เยซอง ที่บอกว่า วันนี้คอนเสิร์ตในไทยที่พวกเขาฝันและรอมา 3 ปีมาถึงแล้ว แต่เสียดายวันนี้เป็นวันที่สองแล้ว ได้เจอเอลฟ์ชาวไทยติดกันสองวันก็รู้สึกว่ามันยังไม่พอ ถ้าทุกคนสัญญาว่าจะรอพวกเขา พวกเขาก็จะรีบกลับมา ทำเอาเอลฟ์กรี๊ดสนั่น มาถึงท่านประธานซีวอนของเหล่าแฟนๆ โดยระหว่างฟังเสียงกรี๊ดก่อนแนะนำตัว หนุ่มทงเฮก็แอบไปปลดเสื้อซีวอนโชว์ท่อนบนสุดล่ำให้เห็นแว้บๆ ทำเอาเสียงเฮลั่นฮอลล์ ก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดใจว่า ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง (หลังจากคอนเสิร์ตวันแรก) ก็คิดถึงแทบตายแล้ว ไม่รู้ว่าสามปีที่ผ่านมาทุกคนอดใจรอกันยังไงนะ ตั้งแต่วันนี้พวกเขาก็สัญญาว่าจะหาโอกาสมาบ่อยๆ ขอบคุณที่รอพวกเขา ขอบคุณที่อยู่เคียงข้าง และสองปีครึ่งที่ผ่านมา ขอบคุณที่สู้เพื่อพวกเขาเพราะรู้ว่าทุกคนเหนื่อย เขาก็เลยมีอะไรจะบอกเอลฟ์ไทย ก่อนโชว์ประโยคเด็ดเป็นภาษาไทยว่า "น่ารักเกินปุยมั้ย" ซึ่งฟีดแบ็คเสียงกรี๊ดสนั่นจนเพื่อนๆ ต้องพูดตามกันสนั่น ต่อด้วย "น่ารักขนาดนี้ พี่ไม่ไหวนะ" ทำการบ้านมาดีสำหรับคุณปลัดของชาวเอลฟ์

         มาถึงน้องเล็ก 'คยูฮยอน' ที่เล่นใหญ่ด้วยการคุกเข่าขอเสียงกรี๊ด ต่อด้วยภาษาไทยยาวเฟื้อย "สวัสดีครับ วันนี้รู้สึกดีมาก เพราะว่าหลังคอนเสิร์ตก็ได้นวดไทย แล้วก็ตอนเช้าวันนี้ผมก็ว่ายน้ำด้วย" ตบท้ายด้วย "รักนะเด็กโง่" จากนั้นก็ถึงคิวของหนุ่มอึนฮยอกที่ทักทายเป็นภาษาไทยว่า "สวัสดีค่าบ ผมชื่อ...อึนฮยอกคร้าบ น่ารักเกินปุยมุ้ย ไทยเอลฟ์ ฮาร์ท เวรี เวรี จั๊กจี้ๆ" พร้อมเผยต่อว่าเมื่อวานเตรียมภาษาไทยมาเยอะ แต่วันนี้เตรียมมาน้อย เพราะอยากบอกความรู้สึกของตัวเองให้เต็มที่ เมื่อวานตื่นเต้นมากเกินไป เอเนอร์จี้ผมหมดจริงๆ แต่เมื่อวานนอนหลับดีมาก วันนี้เอเนอร์จี้ดีมากกว่าเมื่อวานเสียอีก วันนี้จะเต็มที่ที่สุด อยากให้ทุกคนปล่อยเอเนอร์จี้ทั้งหมดที่ทุกคนมี

         ตบท้ายที่ลีดเดอร์ 'อีทึก' ที่ก้มหัวไหว้นานมากก่อนทำท่าคล้ายจะร้องไห้จนโดนน้องๆ แซว ก่อนที่จะ "สวัสดีครับ" ในสไตล์อีทึก "สวัสดีครับ ผมชื่อ...(เอลฟ์ : อีทีก) ทึกกี้ๆ ผมจะบ้าเพราะคุณ" ทุกครั้งที่มาประเทศไทยรู้สึกดีมากๆ เป็นพิเศษยังไงก็ไม่รู้ วันนี้เขาขอสัญญากับทุกคนว่า ถ้าเอเนอร์จี้เต็มสุดๆ แล้ว หลังคอนเสิร์ตวันนี้ เขาก็จะไปคุยกันเรื่องอังกอร์คอนเสิร์ต (เอลฟ์กรี๊ดลั่น) ถ้ามีโอกาส (ได้อังกอร์) พวกเขาก็จะแฮปปี้มากๆ สัญญาว่าวันนี้พวกเขาทุกคนจะเต็มที่ แม้ว่าทุกคนจะใส่แมสก์อยู่ แต่ก็อยากให้ทุกคนส่งสายตาและรอยยิ้มให้พวกเขาเยอะๆ ตัวเขานั้นจะเก็บความรักของทุกคนมาแบบนี้นะครับ (ว่าแล้วก็จัดท่าเด็ดเก็บความรักจากเอลฟ์ทั้งสองฝั่ง)

         จบจากการพูดคุยกันช่วงแรก ก็มาสนุกกันต่อกับหนุ่มๆ ซูเปอร์จูเนียร์ เริ่มช่วงที่ 2 นี้ด้วยผลงานเดี่ยวของเยซองในเพลง ‘Lost Heart’ ต่อด้วยการแสดงโซโล่ในเพลง ‘Blue Moon’ และ ‘California Love’ ของ ‘ทงเฮ’ จากนั้นก็เป็นแสดงเดี่ยวของรยออุคที่ทำเซอร์ไพรส์ร้องเพลงภาษาไทย ‘ถ้าฉันเป็นเขา’ ของวง ‘Indigo’ เรียกความฮือฮาจากผู้ชมได้อย่างถล่มทลาย นอกจากนี้ก็ยังคัฟเวอร์เพลง ‘Dreams Come True’ ของ S.E.S จากนั้นจึงเป็นโซโล่ของอึนฮยอก ที่มาในเพลง 'Be' ก่อนจะต่อด้วยการแสดงแบบยูนิตอย่าง ‘SUPER JUNIOR-K.R.Y.’ ในเพลง ‘I Can’t’

         จบจาก K.R.Y. ก็มาพักพูดคุยกันอีกสักยก คยูฮยอนเผยความรู้สึกก่อนเลยว่า ก่อนที่เขาจะเริ่มร้องเพลงเขาได้ยินเสียงว่า "คยู" ไม่ได้ยินเสียงเรียกคยูมานานแล้ว คือเวลาเขาร้องเพลงก็จะไม่ค่อยออกท่าทางเท่าไหร่ เพลงเมื่อกี๊คือ ‘I Can’t’ รู้สึกว่าเนื้อเพลงเป็นเรื่องราวระหว่างซูจูกับเอลฟ์ การเลิกรา การห่างไกล มันเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับพวกเขาเลย เป็นเรื่องที่พวกเขาทำไม่ได้ ด้านทงเฮ พูดถึงเพลงโซโล่ว่า ตัวเองได้ไป Blue Moon มาแล้วเป็นคนแรก เพราะเอลฟ์คือสีเพิร์ลแซฟไฟร์บลูก็ความหมายเดียวกัน ด้านรยออุคที่ร้องเพลงไทยถามว่าทุกคนชอบมั้ย เพลงนี้เพื่อทุกคนนะ อีทึกอยากให้ทุกคนร้องเพลงนี้พร้อมๆ กันอีกสักครั้ง อุคกี้เลยจัดให้โดยร้องท่อนนึงโดยมีเอลฟ์ร้องคลอตามไปด้วย ด้านอึนฮยอกพูดถึงเพลงของเขาอย่าง Be ว่ามีความสุขที่ได้แสดงเพลงนี้ให้ทุกคน คำว่า BE ย่อมาจาก Bangkok และก็ ELF ลีดเดอร์เลยดักคอว่าแล้วแฟนๆ ที่มาจากพัทยาล่ะจะทำไง อึนฮยอกเลยบอกว่าเพลงนี้สำหรับแฟนๆ ที่อยู่ในฮอลล์โดยเฉพาะนั่นเอง แล้วก็ยังบอกว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ทำให้ Wish ของพวกเขาเป็นจริง หวังว่า Wish ของพวกเขาที่เป็นอังกอร์คอนเสิร์ตจะเป็นจริงด้วยเหมือนกัน

         และก็เข้าสู่เพลงต่อไป My Wish ซึ่งเป็นเพลงจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 11 Vol.1 ‘The Road : Keep on Going’ โดยเพลงนี้ เอลฟ์จัดโปรเจ็กต์แปรอักษรเป็นคำว่า "어디 안 갈게" หรือที่แปลว่า "จะไม่ไปไหน" ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ต่อจากวันแรก #SS9inBKK_DAY1 ที่แปรอักษรเป็นคำว่า 늘 여기 있어 อยู่ตรงนี้เสมอ ต่อด้วยเพลง Callin' แล้วก็พักชม VCR สนุกๆ ของหนุ่มๆ คั่นเวลา จากนั้นก็ได้เวลาของเพลง ‘SPY’, ‘Rokuko’ ที่ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่ ต่อด้วย ‘MAMACITA’ ที่ถูกนำมาทำเป็นเวอร์ชั่นออร์เคสตรา ซึ่งพวกเขาได้แปลงโฉมเป็นนักดนตรีคลาสสิก โชว์เสียงร้องที่ประสานกันได้อย่างลงตัว จากนั้นก็ชม VCR กันอีกรอบ คราวนี้หนุ่มๆ มาเล่นทายชื่อเอ็มวีและปีที่ปล่อยเอ็มวีตัวนั้น ก่อนที่จะเข้าสู่การแสดงช่วงต่อไป

         เริ่มจากการแสดงจากยูนิตพิเศษของอีทึก, ชินดง และ ซีวอน ในเพลงใหม่อย่าง ‘Latte’ ที่หนุ่มทึกกี้มีส่วนร่วมในการแต่ง ต่อด้วยเพลง House Party, Everyday ที่หนุ่มๆ กระจายไปทักทายแฟนๆ รอบเวที แล้วมีช็อตเด็ดที่ทงเฮคว้ามือถือของแฟนๆ มาถ่ายคลิปเป็นที่ระลึก แต่ก่อนที่จะถ่ายเจ้าตัวทดสอบความแม่นของตัวเองด้วยการโยนขึ้นไปแล้วรับ รอบแรกไม่พลาด แต่รอบสองร่วงลงบนพื้นเวทีทำเอาเจ้าตัวใจหล่นรีบเช็คมือถือแล้วคืนให้แฟนๆ ก่อนก้มหัวไหว้ขอโทษอยู่เป็นนาน ต่อด้วยเพลง Wonder Boy เพลงนี้ท่านประธานซีวอนปลดกระดุมเสื้อเผยให้เห็นซิกซ์แพคแน่นๆ ให้เอลฟ์ใจละลายไปตลอดเพลง ตบท้ายเซ็ตนี้ด้วยเพลง Let's Dance ก่อนจะเข้าสู่ช่วงพูดคุยอีกรอบ

         หนุ่มๆ ขอบคุณโปรเจ็กต์ที่แฟนๆ จัดให้ในเพลง My Wish กับ Callin' อีทึกบอกว่าพอได้เห็นข้อความแบบนั้นก็คิดว่าทุกคนน่าจะทำได้ดีเวลามีแฟนเพราะเป็นคนปากหวาน พวกเขารักทุกคนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกคนน่ารักขนาดนี้ "ผมจะบ้าเพราะพวกคุณนะเนี่ย" ลีดเดอร์ปากหวานกว่า ว่าแล้วก็บอกว่าถึงช่วงท้ายๆ ของคอนเสิร์ตแล้ว จู่ๆ ซีวอนก็บอกว่าเหนื่อย อีทึกเลยบอกว่าที่ซีวอนเหนื่อยก็เพราะว่าหลังเวทีก็ให้นั่งพักก่อนก็ไม่ยอมพัก ยกน้ำหนักตั้งร้อยกิโลแหนะ ก็เลยเหนื่อย ว่าแล้วก็ขอดูซิกซ์แพคของซีวอนประมาณว่าโชว์ให้สมกับที่ออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่อย

         จากนั้นก็ถึงเวลามามันส์กันต่อในเพลง Devil ต่อด้วย Don't Wait และ Mango ตามติดมาด้วยการแสดงในเพลง ‘At Gwanghwamun’ เวอร์ชั่นกีต้าร์ไฟฟ้าของคยูฮยอน, ยูนิต ‘SUPER JUNIOR-D&E’ ในเพลง ‘B.A.D’ และ ‘Danger’ ต่อด้วยเพลงฮิตของหนุ่มๆ อีกเซ็ตอย่าง ‘Black Suit’, ‘SORRY, SORRY’ และ ‘Bonamana’ ที่นำมาปรับแต่งใหม่เป็นเวอร์ชั่นที่มีจังหวะเร้าใจกว่าเดิม ก่อนจะเข้าสู่ช่วงอังกอร์ที่หนุ่มๆ กลับมาอีกครั้งในเพลง More Days with You และ Walkin' ที่แฟนๆ จัดโปรเจ็กต์ชูป้าย 꼭 다시 올 거라고 약속해 줄거지? ต้องกลับมาอีกนะ สัญญามั้ย

         จากนั้นก็ถึงช่วงพูดคุยส่งท้าย อีทึกขอบคุณทุกข้อความในโปรเจ็กต์ ซึ่งยังมีที่เขียนว่า “รู้ใช่ไหมว่า พวกเรานับวันรอที่จะได้เจอกันอีกครั้งวันนี้ มาตลอด 949 วัน ที่ไม่ได้เจอกัน” และ “มาสร้างเรื่องราวที่มีแค่ซูจู (ซูเปอร์ จูเนียร์) กับเอลฟ์เท่านั้นที่ทำได้กันเถอะ อนาคตก็อยู่ด้วยกันไปอีกนาน ๆ เลยนะ” ทำเอาทึกกี้ต้องอึ้งก่อนถามว่านี่เอลฟ์เป็นนักเขียนกันหรือเปล่าเนี่ย จากนั้นลีดเดอร์ก็ให้สมาชิกบอกความรู้สึกส่งท้ายกันทีละคน ซึ่งหนุ่มทงเฮยังได้ย้ำอีกครั้งเรื่องจะกลับมากับคอนเสิร์ตอังกอร์ พร้อมเผยตอนนี้หลังเวทีทีมงานหัวฟูมาก กำลังโทรหา SM ที่เกาหลีอยู่ เหมือนกำลังคุยกันเรื่องวันที่ยังไงก็ไม่รู้ ยังไงก็จะหาโอกาสรีบกลับมา ถ้าตารางงานของทุกคนไม่ยุ่งจนเกินไป หวังว่าจะได้กลับมาเร็วๆ นี้ หวังว่าครั้งหน้าที่กลับมาจะได้ออกกำลังกายร่วมกับทุกคน รักทุกคนจากใจจริง ไม่อยากให้ทุกคนป่วยเลย

         ด้านเยซอง บอกไม่ได้เจอกันนานมาก 949 วันนี่มันนานมากจริงๆ สิ่งที่เขาบอกทุกคนได้ก็คือ จะไม่ปล่อยให้ทุกคนรอ 949 วันอีกแน่นอน พวกเขาจะกลับมาพร้อมเพลงใหม่แล้วมาสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกันใหม่ ด้านซีวอนอยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพ ดูแลตัวเองดีๆ พร้อมยังเผยความประทับใจว่า ข้างหน้าตรงนี้มีเอลฟ์ที่เป็นคุณยายท่านนึงมาดูพวกเขาด้วย เป็นคุณยายที่มาดูพวกเขาตลอดเลย อยากให้คุณยายดูแลสุขภาพ ก่อนบอกความในใจเป็นภาษาอังกฤษยาวเหยียดซึ่งปิดท้ายด้วยการขอบคุณเอลฟ์ที่รอพวกเขา, อยู่กับพวกเขา และตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิต หนทางที่ยาวไกลรออยู่ข้างหน้า และเรามีอนาคตร่วมกัน อนาคตนั้นก็คือเอลฟ์ นั่นเอง ทำเอาเพื่อนๆ แซวกันใหญ่ว่าพูดในฐานะทูตยูนิเซฟเลยนะเนี่ย ด้านคยูฮยอนออกปากแซวเป็นภาษาอังกฤษว่า "ผมยังหิวอยู่เลย ผมต้องการความรักของพวกคุณ"

         ซึ่งพอถึงคิวของตัวเองพูดส่งท้ายบ้าง คยูฮยอน ก็มาเป็นภาษาไทยยาวเหยียดอีกรอบว่า "ไม่คิดว่าฮอลล์คอนเสิร์ตจะเต็มขนาดนี้ เพราะผมรู้ว่าผมแก่นิดหน่อย แต่ว่าผมยังดูเด็กอยู่ ผมไม่มาประเทศไทยบ่อยๆ ผมกลัวว่าคนที่รักผมจะหายไป ห้ามลืมคยูฮยอนนะ ขอบคุณที่รักผมเสมอมา ดูแลตัวเองดีๆ จนกว่าเราจะได้เจอกันใหม่นะ" "อยู่ด้วยกันเสมอ รักนะเด็กโง่" อีทึกถึงกับแซวว่า พูดภาษาไทยเก่งกว่าภาษาอังกฤษอีกนะ คยูเลยโชว์สกิลตอบกลับว่า "ช่าย" มาถึงอึนฮยอก ที่บอกว่า หลังจากโควิดก็ได้รู้ว่า เวทีทุกเวที การแสดงทุกโชว์สำคัญมากๆ เลย ทุกการแสดงเขาเต็มที่มากๆ เพราะหลังโควิดทำให้เขาคิดว่าไม่รู้ว่าเขาจะได้กลับมาเจอกับทุกคนแบบนี้อีกเมื่อไหร่ หวังว่าวันนี้ทุกคนจะได้สร้างความทรงจำที่ดีกลับบ้าน เขาอยากเจอทุกคนอีกครั้งในเร็วๆ นี้ (ควักโพยมาอ่านเป็นภาษาไทย) "เพราะเอลฟ์ชาวไทยอยู่เคียงข้างพวกเรามาตลอดและเป็นกำลังใจให้เสมอมา ผมอยากจะสัญญา ว่าผมจะทำเพลงหรืออัลบั้มเพื่อเอลฟ์ไทยและทำงานกิจกรรมในประเทศไทยครับ I promise you ผมรักคุณ ขอบคุณครับ"

         ปิดท้ายที่ลีดเดอร์อีทึก ที่ทำท่าเก็บความรักของเอลฟ์อีกรอบ ก่อนบอกว่า ถ้าไม่มีทุกคน เขาก็น่าจะเป็นคนธรรมดา แต่หน้าตาดี (ยังฮาส่งท้ายได้อีก) แต่ทุกคนรักเขาเสมอมา ในระหว่างคอนเสิร์ตซูเปอร์โชว์ เขาคือ The Best Men บนโลกใบนี้ อยากขอบคุณเอลฟ์ที่ทำให้เขาเป็นคนที่เท่ที่สุดบนโลกใบนี้นะครับ ความรักของทุกคนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่ความรักของพวกเราที่ให้กับทุกคนก็เท่าเดิมไม่เปลี่ยน เขาจะรักทุกคนมากกว่า ก่อนจะถามกลับว่าทุกคนก็จะรักเขาเหมือนกันใช่มั้ย ทุกคนอยู่ที่นี่นิ่งๆ นะ เพราะเขาจะมอบความรักให้นะ จากนั้นก่อนเพลงสุดท้ายหนุ่มๆ ซูเปอร์จูเนียร์ ได้แนะนำแดนเซอร์และก็ถ่ายรูปด้วยกัน ก่อนคอนเสิร์ตจะจบลงด้วยเพลง Happiness

         สำหรับคอนเสิร์ตนี้ ‘SUPER JUNIOR’ ได้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของพวกเขา และพิสูจน์ความอลังการของแบรนด์คอนเสิร์ตระดับโลกด้วยบทเพลง, การแสดง และโปรดักชั่นอันยอดเยี่ยม และอีกส่วนสำคัญที่ทำให้คอนเสิร์ตนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีก็คือ พลังของแฟนคลับ E.L.F. ไทย ที่เป็นเหมือนแรงผลักดันให้กับพวกเขาในการเดินทางที่มั่นคงนี้ ที่ได้เตรียมโปรเจ็กต์มาให้กำลังใจมากมาย เรียกว่าปิดฉากคอนเสิร์ตพร้อมความประทับใจอย่างเต็มอิ่ม ด้วยบทเพลงทั้งสิ้น 27 เพลง ระยะเวลาการแสดงกว่า 3 ชั่วโมง 30 นาที อีกทั้ง ‘SUPER JUNIOR’ ยังให้คำมั่นว่า จะสร้างสรรค์ผลงานอันมีคุณภาพต่อไป

แฮชแท็กอย่างเป็นทางการ: #SS9inBKK #SUPERJUNIOR #SMTrue

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้