ต้นสังกัดจีซูออกแถลงการณ์หลังมีข้อกล่าวหาเรื่องความรุนแรงในโรงเรียน

            Keyeast ต้นสังกัดของจีซู (Ji Soo) ได้ออกแถลงการณ์หลังจากที่นักแสดงหนุ่มถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรงในโรงเรียน

            เมื่อวันที่ 2 มีนาคม มีโพสต์ๆ นึงถูกอัปโหลดไปยังฟอรัมออนไลน์ โดยมีคนกล่าวหาว่าจีซูเป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับความรุนแรงในโรงเรียน ทั้งนี้ผู้โพสต์ (ต่อไปนี้จะเรียกว่า 'A') กล่าวว่าพวกเขาเรียนชั้นมัธยมต้นเดียวกับจีซูตั้งแต่ปี 2006-2008 โดยเขียนว่า

            “คิม จีซู มีรูปร่างที่ใหญ่โตกว่าเด็กคนอื่นๆ ในตอนนั้น เริ่มเรียนชั้นมัธยมต้นปีที่ 2 ในปี 2007 เขาเดินร่อนไปทั่วโรงเรียนในฐานะเด็กเกเรและกระทำการเลวร้ายทุกประเภท ผู้กระทำผิดในเวลานั้นรวมถึงคิม จีซูนั้นค่อนข้างทำอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ก่อนอื่นการต่อสู้กับคิม จีซูและบรรดาผู้กระทำผิดเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจินตนาการได้ หากสมาชิกคนใดในกลุ่มนั้นประสบบางสิ่งบางอย่างที่ไม่พึงประสงค์แม้แต่นิดเดียวพวกเขาทั้งหมดจะไปทำร้ายคนๆ นั้น, เหยียบย่ำพวกเขาอย่างดูถูกเหยียดหยามในทุกทาง”

           A อ้างว่า จีซูและเพื่อนๆ บังคับให้เพื่อนร่วมชั้นซื้อบุหรี่และโยนอาหารใส่นักเรียนคนอื่นๆ ระหว่างรับประทานอาหารกลางวันและหัวเราะ โดบกล่าวต่อว่า “ผม ถูกคิม จีซู และผู้กระทำผิดในปี 2008 รังแกในปีที่สามของโรงเรียนมัธยมต้น คำว่า ‘กลั่นแกล้ง’ ไม่เพียงพอที่จะอธิบายทุกอย่าง ผมตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในโรงเรียนทุกรูปแบบเช่นการถูกขับไล่, ใช้ความรุนแรง, การแบล็กเมล์, การดูหมิ่นและการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม เริ่มต้นขึ้นเมื่อ B ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้กระทำผิดในกลุ่มของคิม จีซู เอาบัตรของขวัญของนักเรียนอีกคนไป ผมไปหา B และบอกว่าจะแจ้งตำรวจหากพวกเขาไม่คืนบัตรของขวัญนั้นมา

            “ท่าทีแบบนี้ของผมถือเป็นการกระทำที่เป็นปรปักษ์ หลังจากนั้นชีวิตในโรงเรียนมัธยมต้นธรรมดาของผมก็กลายเป็นเรื่องน่าหวาดกลัว พวกเขาระวังตัวมากขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะผมบอกพวกเขาว่าผมจะแจ้งตำรวจ แต่พวกเขากลับไปสั่งให้เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นกลั่นแกล้งผมเพื่อที่พวกเขาจะได้หมดปัญหา”

           A เขียนว่าเพื่อนร่วมชั้นที่ถูกสั่งโดยผู้กระทำผิดมักจะพ่นคำสาปแช่งที่น่ารังเกียจใส่พวกเขาอย่างต่อเนื่องและผู้กระทำผิดได้ประกาศให้นักเรียนที่โรงเรียนทราบว่าใครก็ตามที่พูดกับ A จะต้องตายด้วยน้ำมือของพวกเขา A อธิบายว่าพวกเขาไม่สามารถเดินไปรอบๆ โรงเรียนได้อย่างอิสระเพราะกลัวว่าจะไปเจอเข้ากับจีซู ซึ่งถูกกล่าวหาว่าไปด่าว่า A และตบหัวหรือไม่ก็หน้าพวกเขา A กล่าวเสริมว่า จีซูจะถือปืนบีบีกันและยิงใส่นักเรียนเพื่อความสนุกสนาน

           A ยังกล่าวว่า “สิ่งที่ผมเขียนตรงนี้เป็นเพียงสิ่งที่ผมมีประสบการณ์ 'โดยตรง' และยังมีคนอีกมากมายที่ต้องเจอกับความรุนแรงในโรงเรียนที่มากกว่านี้จากการกระทำของคิม จีซู ผมอยากจะเขียนถึงอีก 2-3 กรณี แต่ (เหยื่อ) อาจไม่ต้องการผมก็เลยไม่ทำ จริงๆ แล้วเมื่อเทียบกับสิ่งที่เด็กคนอื่นๆ ประสบในเวลานั้นนับว่าประสบการณ์ของผมยังไม่มากนัก แต่เพียงเพราะกรณีอื่นๆ นั้นเลวร้ายและรุนแรงกว่าจึงไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมควรถูกมองว่าเป็นเรื่องเบาๆ”

           สุดท้าย A เขียนว่า “สิ่งที่ผมต้องการไม่ใช่ค่าชดเชยหรือคำขอโทษ ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วและผมไม่ต้องการคำขอโทษเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนกลับได้ และผมไม่เชื่อว่า (คำขอโทษนั้น) จะมาจากใจจริง มีเพียงสิ่งเดียวที่ผมต้องการ คิม จีซู ถ้าการแสดงคือสิ่งที่นายอยากทำก็ทำต่อไป แต่ขอให้คำว่า 'ผู้กระทำความรุนแรงในโรงเรียน' นำหน้าชื่อนายในใจตลอดไป เช่นเดียวกับฉัน คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่นายรังแกจะไม่มีวันลืมความทรงจำนั้น”

            หลังจากโพสต์ของ A ก็มีอีก 2 คนมาบอกเล่าประสบการณ์ของพวกเขา มีคนหนึ่งอ้างว่าจีซูทุบตีพวกเขาอย่างต่อเนื่อง และอีกคนระบุว่าจีซูทำร้ายพวกเขาด้วยวาจา จนเมื่อ 3 มีนาคม Keyeast ต้นสังกัดของจีซูก็ได้ออกแถลงการณ์ว่า

            "สวัสดีครับ นี่คือ Keyeast นี่คือจุดยืนของเราเกี่ยวกับเนื้อหาในโพสต์เกี่ยวกับจีซู นักแสดงของเราที่แพร่กระจายไปทั่วชุมชนออนไลน์ เรากำลังพิจารณาเหตุการณ์นี้อย่างจริงจังและจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนอื่น ในฐานะที่เวลาที่คุณระบุนั้นมันผ่านไปนานมากแล้ว เราขอความเข้าใจจากคุณว่าต้องใช้เวลาในการตรวจสอบความจริง เราจะได้รับรายงานทางอีเมล (rpt@keyeast.co.kr) เกี่ยวกับเรื่องนี้และจะรวบรวมข้อมูลโดยไม่บิดเบือนสิ่งใด นอกจากนี้หากผู้สร้างโพสต์และคนอื่นๆ ที่ออกมาเปิดเผยจะอนุญาต เราก็อยากรับฟังความคิดเห็นของพวกเขาโดยตรง นอกเหนือจากการยืนยันข้อเท็จจริงแล้ว ต้นสังกัดและนักแสดงของเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ขออภัยที่ทำให้หลายๆ คนเกิดความกังวล อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากปัญหานี้ เราขอให้คุณหลีกเลี่ยงการสร้างและโพสต์ส่วนที่ไม่ได้รับการยืนยันจากข้อมูลที่เผยแพร่โดยไม่ระมัดระวัง ขอบคุณครับ"