ยกระดับ T-POP! BamBam เปิดประสบการณ์ใหม่ให้วงการเพลงไทย&โกลบอล ถ่ายทอดตัวตนผ่านภาษาบ้านเกิดใน HOMETOWN พร้อมสปอยล์ "ดูมิวสิควีดีโอแล้วรอดก็ขอให้กดบัตรได้"

          หลังจาก BamBam หรือ แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ศิลปิน นักร้อง นักแต่งเพลง และซูเปอร์สตาร์ระดับโลกสัญชาติไทย สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนเพลงชาวไทยและทั่วโลก ด้วยการปล่อยเพลง “ไม่มีใครสักคืน (Dancing By Myself) (Feat. TIMETHAI)” ซึ่งเป็นเพลง Pre-Release จากอัลบั้ม EP ภาษาไทยครั้งแรกของ BamBam ที่มีชื่อว่า HOMETOWN ออกมาเมื่อเดือนที่แล้วก็กลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย เมื่อ MV เพลงนี้แรงสุดฉุดไม่อยู่ ทำสถิติยอดวิวใน YouTube ทะลุกว่า 20 ล้านวิวภายในวันเดียวเท่านั้น และ Trending Music Videos อันดับที่ 1 บน YouTube พร้อมคว้า Trending อันดับ 1 บนแพลตฟอร์ม X ภายในเวลาเพียง 15 นาทีหลังปล่อยเพลง นอกจากนี้ยังครองอันดับ 1 บน iTunes ทั้งในประเทศไทย และอีกหลายประเทศทั่วโลกได้อีกด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เพลงไทยก้าวขึ้นมาสร้างสถิติใหม่ ที่สร้างกระแสได้แรงขนาดนี้ ทั้งยังครองพื้นที่สื่อจนกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ภายในชั่วข้ามคืน

          และตอนนี้ถึงเวลาของผลงานที่ทุกคนรอคอยกับ HOMETOWN อัลบั้ม EP ภาษาไทยชุดแรกจาก BamBam ที่ปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังครบทุกเพลงแล้ววันนี้ เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลงทั้งในไทยและระดับโลก โดยมีเพลง “WONDERING” เป็นเพลงไตเติลประจำอัลบั้ม EP ที่ได้นักแสดงสาวสุดสวย ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ร่วมแสดงเป็นนางเอกในมิวสิควิดีโอให้ และเผยให้เห็นมุมโรแมนติกของ BamBam ที่แฟนๆ ที่ได้ชมจะต้องชื่นชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ชมอย่างแน่นอน

          HOMETOWN เป็นผลงานแรกของ BamBam ที่ทุกเพลงมีเนื้อร้องเป็นภาษาไทย พร้อมกับความมุ่งมั่นตั้งใจอยากจะให้แฟนเพลงทุกคนจากทั่วทุกมุมโลกได้เรียนรู้และทำความรู้จักกับเพลง ดนตรี ภาษา และวัฒนธรรมไทยที่บ้านเกิดของเขามากยิ่งขึ้น ผ่านบทเพลงที่เขาคัดสรรมาเป็นอย่างดี โดยเจ้าตัวมีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อเพลงและทำนองเองในทุกๆ เพลง นอกจากนี้อัลบั้มนี้ BamBam ยังได้ศิลปินไทยชื่อดังมาร่วมทำเพลงด้วยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ธามไท แพลงศิลป์ ในเพลง “ไม่มีใครสักคืน (Dancing By Myself)”, อิ้งค์ วรันธร ในเพลง “ไฟเขียว (Greenlight)” และ เจฟ ซาเตอร์ ในเพลง “มากกว่า Friend (More Than Friend)” รวมถึงได้ศิลปินนักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ระดับโลกอย่าง Pharrell Williams มาโปรดิวซ์เพลง “Angel In Disguise” ให้อีกด้วย

         และเมื่อวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นวันปล่อยอัลบั้ม EP ภาษาไทย HOMETOWN ของ BamBam เจ้าตัวก็ได้จัดงาน BamBam EP [HOMETOWN] Launch Event - HOMECOMING PARTY ขึ้น ณ UOB LIVE, EMSPHERE ซึ่งงานนี้ก็มีเพื่อนๆ ศิลปินเคป๊อป, ทีป๊อป, เซเลบริตี้, อินฟลูอินเซอร์ ฯลฯ ตบเท้าร่วมงานคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น มินนี่ I-DLE, โรอุน อดีตสมาชิก SF9, ใหม่ ดาวิกา&เต๋อ ฉันทวิชช์, ตู่ ปิยวดี&มาวิน ทวีผล, ออน สมฤทัย&หมอสอง นพรัตน์, โฟร์ท ณัฐวรรธน์, เจนเย่ เมธิกา, ไทแทน ทีปประสาน, จูดี้& พี่ฮง ฯลฯ รวมไปถึง ณิชา - ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ นางเอกเอ็มวีเพลง “WONDERING” และศิลปินไทยที่ร่วมทำเพลงในอัลบั้มอย่าง ธาม - ธามไท แพลงศิลป์, เจฟ - วรกมล ซาเตอร์ และอิ้งค์ - วรันธร เปานิล ซึ่งหลังช่วงเดินพรมแดง หนุ่ม BamBam ก็ได้มาเปิดใจกับพี่ๆ สื่อมวลชนถึงงานในวันนี้

         BamBam : วันนี้พี่ถามอะไรผมจะตอบแล้ว

Q : งั้นถามถึงงานวันนี้ก่อนเลย

         BamBam : releasing party จริงๆ ก็เตรียมหลายๆ detail ในวันนี้อยากจะให้สภาพแวดล้อมทุกอย่างมันอำนวยความสะดวกทุกคนมากที่สุด และก็ให้ทุกคนสามารถ enjoy กันได้มากที่สุด ไหนๆ เขาก็มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของในวันดีๆ แบบนี้ของผม ก็อยากจะตอบแทนเขา

Q : ที่มาและแนวคิดของอัลบั้มนี้

         BamBam : HOMETOWN เป็นสิ่งที่ผมอยากทำมานานแล้ว อัลบั้มนี้ก็เตรียมมาประมาณปีครึ่ง เป็นอัลบั้มที่เตรียมนานที่สุดเท่าที่เคยเตรียมมา มันมีหลาย detail ที่ผมใส่ใจและก็อยากให้มันออกมาดี ถือว่าเป็นอัลบั้มเพื่อบ้านเกิดของเราทุกๆ คนตรงนี้นะครับ

Q : ใส่ความเป็นไทยไปมากน้อยขนาดไหน

         BamBam : ผมรู้สึกว่าผมอยากใส่ความเป็นตัวเอง ซึ่งยังไงผมก็เป็นคนไทยอยู่แล้ว ผมอยากใส่ความเป็นไทยที่คนไทยเขาเห็นจริงๆ ไม่ใช่ความเป็นไทยที่นักท่องเที่ยวเห็น คือผมไม่ได้เลือกที่จะไปทำอะไรในที่ๆ มันดังในหมู่คนต่างชาติอยู่แล้ว ผมแค่จะเลือกไปที่ๆ ผมรู้สึกว่า...เนี่ยแหละไม่ว่าคนไทยคนไหนดูก็จะ...อ๋อ...อันนี้แหละ แบบไทยๆ

Q : บางคนบอกว่าเป็นการยกระดับ T-POP บ้านเราขึ้นไปอีก

          BamBam : โอววว เป็นเกียรติกับผมมากๆ เลยครับ จริงๆ ผมก็อยากจะหาอะไรใหม่ๆ ทำด้วยแหละครับ ที่จริง T-POP หรือจะเป็นหนังไทยหรือละครไทยมันก็ตีตลาดโลกอยู่แล้ว ผมก็แค่...ไม่รู้ว่าจะใช้คำว่ายกระดับได้ไหม ผมก็แค่ทำในหน้าที่ของผมเท่านั้นเอง

Q : มันยากขนาดไหน ต้อง challenge ตัวเองขนาดไหนสำหรับการทำอัลบั้มไทยอัลบั้มแรกของตัวเอง

           BamBam : มันชาเลนจ์ที่...คือผมไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วคนไทยเขาฟังเพลงแบบไหนใช่ไหมครับ ผมไม่รู้ว่าเขาชอบดูอะไรยังไง การโปรโมทที่ประเทศไทยมันเป็นยังไง แล้วก็การที่ผมต้องร้องภาษาไทยเนี่ย...โอเคถึงผมจะพูดไทยได้แต่ว่าการร้องเพลงไทยหรือเขียนเนื้อไทยมันยากนิดนึง มันต้องร้องยังไงให้ดูมีเสน่ห์อะไรแบบนี้ ซึ่งก็โชคดีครับมีหลายๆ คนเข้ามาช่วย อย่างเพื่อนผม 'ไทแทน' อะไรอย่างนี้เข้ามาช่วยด้วยครับผม แล้วก็เพราะผมไม่ค่อยรู้ว่าที่ไทยเขาทำยังไงผมก็เลยลองจัดในวิธีที่เราคุ้นเคย ก็เลยเอา system ของ K-POP มาทำที่ประเทศไทยดู อยากรู้ว่าเขาจะรู้สึกแปลกใหม่หรือว่า enjoy กับหลายๆ สิ่งหลายๆ ความสนุกที่เราเอามาให้เขาหรือเปล่า

Q : แบมเหมือนเพิ่งก้าวเข้ามาใน T-POP เลย

          BamBam : นี่ผมเพิ่งเดบิวต์ทีป๊อปเหรอเนี่ย...ผมเป็นน้องใหม่เลยเหรอ (หัวเราะ) เออก็ดีครับผม แต่ไม่รู้สิผมว่าเดี๋ยวนี้ T-POP, K-POP ผมรู้สึกว่ายังไงมันก็เป็นแค่ music ครับผม ทุกคนก็สามารถ enjoy กับดนตรีได้ มันไม่ได้เกี่ยวกับภาษาหรืออะไร ผมก็แฮปปี้นะที่เห็นอินเตอร์เนชันแนลแฟนคลับที่เขามาฟังและพยายามร้องตามเป็นภาษาไทย และเขาก็ร้องกันได้อะไรอย่างนี้ ผมก็แฮปปี้ที่ได้เห็นภาพนั้น

Q : การร่วมงานกับศิลปินทั้ง 3 คนเป็นไงบ้าง

          BamBam : เอาจริงๆ ทุกคนชิลครับ แฮปปี้มากๆ ผมรู้สึกดีที่แบบว่า เราเริ่มต้นด้วยการอารมณ์แบบ...เออเรามาทำกันมั้ยแล้วมันก็เกิดขึ้นจริงๆ แล้วทุกคนก็ให้ความร่วมมือมากๆ จริงๆ เลยก็แฮปปี้ครับ

Q : เหตุผลที่เลือก 3 คนนี้เพราะอะไร ธามไท, เจฟ, อิ้งค์

          BamBam : สามคนนี้ก็จะมีดีเทลที่ต่างกัน ผมรู้สึกว่า 3 คนมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกัน จะเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวมาก และผมชอบที่เขาเป็น artist จริงๆ สิ่งหลักของเขาก็คือการร้องการเต้นอะไรอย่างนี้ ผมรู้สึกว่าถ้าเกิดเราแต่งเพลงเอง ทำเพลงเอง เรากำกับมิวสิควีดีโอเองอะไรแบบนี้ ผมรู้สึกว่ามันควรได้คนที่สามารถทำได้แบบเรามาร่วมงานกับเราครับผม ผมก็เลยแบบ...พูดง่ายๆ ก็คือผมอยากทำงานกับคนที่มีความสามารถแค่นั้นเองครับผม

Q : อย่าง 'ธามไท' มีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า เพราะเห็นเป็นคนแรก

         BamBam : เขากวนตีนครับ แต่ผมรักเขามาก ผมรู้สึกว่า.... (หัวเราะ) ก็ประมาณนั้นแหละครับอย่างที่ทุกคนรู้นั่นแหละครับ ก็อย่างนั้นจริงๆ คือรู้สึกเหมือนเป็นพี่น้องที่ห่างกันมานานแล้วเพิ่งจะได้มาเจอกันประมาณนั้นนะครับ ก็เข้าขากันดีครับ

Q : ถามถึงเพลงไตเติ้ล “WONDERING” ที่ได้ณิชามาเป็นนางเอก MV

         BamBam : จริงๆ “WONDERING” ผมก็รู้สึกว่าเป็นเพลงที่แสดงถึงความเป็นผมได้จริงๆ แบบผมที่ไม่ต้องแต่งหน้าเยอะ แต่งตัวเยอะ ทำสีผมสีขาวสีแดงอีกแล้ว รอบนี้ผมอยากเป็นตัวเองจริงๆ ไม่อยากให้ทุกคนไปโฟกัสที่...ผมใส่เสื้ออะไร ผมทำผมสีไหน ผมอยากให้ทุกคนโฟกัสที่ผมอย่างเดียวเลยจริงๆ ครับผม คือความเป็นผม คือผมเอาทุกอย่างที่ผมรู้สึกว่ามัน blink มันเว่อร์วังออกไปให้หมด แล้วก็เป็นแค่วัยรุ่นไทยคนหนึ่งจริงๆ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้และก็ relate ได้ และก็ได้พี่ณิชามาเป็นนางเอก ผมรู้สึกว่าเขาก็ทำให้มิวสิควีดีโอของผมมัน complete ขึ้นมากจริงๆ

Q : มีคนบอกว่าอยากสิงร่างน้องณิชากันทั้งประเทศแล้ว

          BamBam : โอ...สู้ๆ นะครับพี่ณิชา (ชูสองนิ้ว) ผมก็ไม่รู้จะยังไงเหมือนกัน (หัวเราะ)

Q : เตรียมใจยังไงก่อนดู (มิวสิควีดีโอ) โพแม่ โพแฟนต้องเตรียมตัวยังไง

          BamBam : เอ่อ ก็อยากจะบอกว่า...ผมก็ลองอะไรใหม่ๆ ผมรู้สึกว่า หลายๆ คนก็อยากเห็นผมแสดงไม่ใช่เหรอ ผมก็เริ่มจากอย่างนี้ก่อนแล้วถ้าทุกคนโอเคมันก็อาจจะ lead ไปถึงซีรีส์หรือว่าละครก็ได้ใครจะไปรู้ครับผม แต่ว่าก็ลองดูอันนี้ก่อนแล้วกัน แล้วก็อ่า...ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือน
กันครับผม

Q : หัวใจโพแม่ โพแฟน เขาจะแบบ....

          BamBam : ก็คิดแล้วกันครับว่า โอเคทุกคนเห็นผมตั้งแต่อายุ 17 อีก 2 ปีผม 30 แล้วผมก็ไม่อยากหยุดอยู่กับที่ ผมก็ไม่อยากทำอะไรที่แบบว่า...มันอยู่กับที่ ผมรู้สึกว่าโอเคมันอาจจะมีหลายๆ เสียงนะ แต่ว่า...ทำไงได้อ่ะ คือถ้าเกิดเราทำอะไรใหม่ๆ มันก็จะมีคนที่โอเคกับคนที่ไม่โอเค คนเก่าไปคนใหม่มาอะไรแบบนี้ ซึ่งถ้ามันเป็นทางที่ผมเลือกแล้วผมก็รู้สึกว่าก็อยากให้มันมองเป็นแค่งานศิลปะครับ

Q : แสดงว่าอนุญาตให้กรี๊ดได้เต็มที่

          BamBam : อนุญาตครับ แต่ผมก็ไม่รู้เขาจะคิดยังไง ผมก็ไปบังคับเขาไม่ได้

Q : พูดถึงคอนเสิร์ตนิดนึง

          BamBam : คอนเสิร์ตเหรอ ก็...งานวัดใหญ่ๆ ครับ

Q : เราจะได้เห็นอะไรในคอนเสิร์ต

          BamBam : ก็มีหลายอย่างครับ เดี๋ยวผมบอกอีกทีได้ป่ะเดี๋ยวมันจะมีแถลงข่าวคอนเสิร์ตต่างหาก

Q : สปอยล์นิดนึง

          BamBam : รอบนี้จะมีคนที่ยิ่งใหญ่มา...ตัดชุดให้ผมโชว์ครับ โดยเฉพาะ ก็รอดูนะครับว่าเป็นใคร

Q : งั้นตอนนี้ขอคาถากดบัตรก่อน

          BamBam : โอ้ยังไงดีอ่ะ ก็...คนที่ดูมิวสิควีดีโอแล้วรอดก็ขอให้กดบัตรได้นะครับ (หัวเราะ)

Q : แสดงว่าถ้าดูแล้วจะไม่รอดเหรอ

          BamBam : ผมก็ไม่รู้เหมือนกันพี่ โอเคผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ผมเดาไม่ถูกจริงๆ ครับผม ผมให้ทุกคนเป็นคนประมวลแล้วกันครับว่ามิวสิควีดีโอมันดีหรือไม่ดียังไง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ
ก็รอดูพร้อมกันใช่ไหม อีก 15 นาทีเราก็ได้ดูกันแล้ว เดี๋ยวผมจะเปิดข้างในพร้อมกันครับ

          เป็นอันว่าทั้งเหล่าอากาเซ่และแบมมี่ก็ได้กรี๊ดดดอ้าปากค้างกันไปแล้วสำหรับฉากโรแมนติกในเอ็มวี สำหรับครั้งนี้ BamBam ตั้งมั่นทุ่มเทที่จะถ่ายทอดตัวตนของตัวเองผ่านบทเพลงภาษาไทยที่เป็นภาษาบ้านเกิด ทำให้ HOMETOWN เป็นผลงานที่สะท้อนตัวตนของเขาทั้งในแง่ของเอกลักษณ์ทางดนตรีในฐานะศิลปิน และความรัก ความภาคภูมิใจในฐานะคนไทย ที่ได้นำเสนอความเป็นไทยที่เป็น ‘บ้านเกิด’ ของเขาเองได้อย่างสร้างสรรค์ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกเพลงในอัลบั้มนี้จะช่วยโปรโมตเพลงไทย ศิลปินไทย และวงการเพลงไทยอย่าง T-Pop ให้เป็นที่รู้จักในวงการเพลงระดับโลกมากขึ้น รวมทั้งเป็นอีกหนึ่งผลงานสำคัญที่อยากให้แฟนๆ ทั่วโลกจดจำไปอีกนานแสนนาน


#แบมแบม #BamBam #뱀뱀 #HOMETOWN #WONDERING
#HOMECOMING_PARTY
#WONDERING_OUTNOW