Last updated: 29 เม.ย 2568 |
TEN (เตนล์) วง NCT (เอ็นซีที) แสดงศักยภาพเต็มสิบในฐานะศิลปินเดี่ยว ผสานเรื่องราวและการแสดงสุดตื่นตะลึงในคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรก 2025 TEN CONCERT 1001 MOVEMENT ‘STUNNER’ IN BANGKOK (ทูเธาซันด์ทเวนตี้ไฟว์ เตนล์ คอนเสิร์ต วันซีโร่ซีโร่วัน มูฟเมนต์ ‘สตันเนอร์’ อิน แบงค็อก) สะกดสายตาผู้ชมตลอดทั้งสองรอบการแสดงในวันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2025 เวลา 18:00 น. และวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2025 เวลา 16:00 น. ณ อิมแพ็ค อารีน่า
‘1001 MOVEMENT’ (วันซีโร่ซีโร่วัน มูฟเมนต์) เปรียบเสมือนแบรนด์ทัวร์เฉพาะตัวที่สะท้อนตัวตนพร้อมสื่อถึง TEN (เตนล์) กับแฟนคลับคนสำคัญอันดับหนึ่งอย่าง NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น) และ WayZenNi (เวย์เจินนี) อีกทั้งยังถ่ายทอดความหมายลึกซึ้งผ่านนิยามที่ว่า “ทุกการเคลื่อนไหว อธิบายและเติมเต็มตัวตนของฉัน” การแสดงในครั้งนี้จึงเผยให้เห็นอัตลักษณ์ทางศิลปะของ TEN (เตนล์) ผ่านการแสดงที่หลากหลาย ผสานด้วยโปรดักชันแบบ 3 มิติ อาทิ โครงสร้างเวที LED ทั้งแบบยกและเลื่อน, ลิฟต์ที่ยื่นออกมาเป็นขั้นบันได, สายพานลำเลียง รวมถึงสเปเชียลเอฟเฟกต์แสง สี เสียง และเลเซอร์สุดล้ำ ที่ช่วยเสริมมิติทางอารมณ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
การเคลื่อนไหวอันน่าหลงใหลและเป็นเอกลักษณ์ของ TEN (เตนล์) ถูกถ่ายทอดผ่านองค์ประกอบต่างๆ ของคอนเสิร์ต ตั้งแต่วีซีอาร์ที่นำเสนอตัวเขาในคอนเซ็ปต์การถือกำเนิดใหม่เป็น “ไซเรน” (Siren) สิ่งมีชีวิตลึกลับผู้เปี่ยมเสน่ห์ตามเทพปกรณัมกรีก-โรมัน พร้อมระเบิดความร้อนแรงด้วยเพลงสุดทรงพลังอย่าง ‘Nightwalker’ ตามด้วยความหนักแน่นในเพลง ‘ON TEN’ ต่อเนื่องด้วยเพลงจากมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘BAMBOLA’ เพลงแดนซ์จังหวะสนุกๆ ชวนเต้นและเป็นการโชว์ที่ไทยครั้งแรก จากนั้น TEN (เตนล์) ก็ก้าวไปสู่ความเท่อีกระดับด้วยการใช้บันไดประกอบการแสดงในเพลง ‘Enough For Me’ ก่อนเผยมาดวายร้ายสุดอันตรายในเพลง ‘Dangerous’ นอกจากนี้ยังเล่นกับแสงและเงาสะท้อนเพิ่มความเซ็กซี่ในเพลง ‘Shadow’ และอีกเพลงจากมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘Sweet As Sin’ ที่มีการสวมผ้าปิดตา เพิ่มอารมณ์ดาร์กให้ยิ่งเข้มข้น
โชว์ต่อเนื่องเรียกเสียงกรี๊ดร้อนแรงมาหลายเพลงติดก็ได้เวลาทักทายกันอย่างเป็นทางการ โดย TEN (เตนล์) ต้อนรับแฟนๆ เข้าสู่คอนเสิร์ต 2025 TEN CONCERT 1001 MOVEMENT ‘STUNNER’ IN BANGKOK พร้อมเผยถึงที่มาของชื่อคอนเสิร์ตในครั้งนี้ เริ่มจาก "1001" ที่เจ้าตัวบอกว่ามาจากตอนที่เทำแฟนคอนครั้งแรก "1001" ซึ่ง "10" ก็คือ "เตนล์" แล้ว self reflection ก็คือ "01" กลายเป็น "1001" แฟนคอนครั้งแรกชื่อว่า "1001" ดังนั้นคอนเสิร์ตครั้งแรกก็อยากให้มันเชื่อมต่อกัน ก็เลยเอา 1001 มาต่อกัน ส่วนคำว่า "movement" ก็มาจากการที่เจ้าตัวอยากจะสร้าง movement ของตัวเอง แต่การทำอะไรคนเดียวมันรู้สึกเหงาก็เลยต้องการแฟนๆ ทุกคนมาอยู่ข้างๆ กลายเป็นชื่อ movement ประมาณว่ามาทำด้วยกันนั่นเอง เตนล์ยังเผยความลับว่า ตอนซาวด์เช็คตอนแรกไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น แต่ตอนที่ขึ้นไปอยู่ข้างบนในเพลง ‘Nightwalker’ ที่อยู่สูงมากจนเจ้าตัวบอกว่านึกว่าเจนเป็นอีกานั้นแฟนๆ ส่งเสียงเกรียวกราวกันสุดๆ ทำให้อยู่ดีๆ ก็ตื่นเต้นมาก นึกอยู่ในใจว่า 'ทำไงดี' เปิดเพลงแรกมาก็รู้สึกสนุกมาก ทุกคนให้เอเนอร์จีเยอะมาก และทุกคนร้องตามดังเข้าถึงหูเตนล์จนเกือบจับโน้ตไม่ถูกว่างั้น เจ้าตัวยังบอกว่า ต้องคอยเช็คตลอดกับแฟนๆ ว่าฟังตัวเขารู้เรื่องมั้ยเพราะแอบสับสนทางภาษาเล็กน้อย ก่อนถาม "ใครฟังไม่รู้เรื่องยกมือหน่อยครับ" มียกมือไม่กี่คน เตนล์เลยบอกไปว่า "รักนะครับ" ปรากฏเสียงกรี๊ดสนั่น เตนล์ถามต่อ "มีใครที่ฟังไม่ชัดไหมครับ" คราวนี้ยกมือกันเกรียวกราว เตนล์ตอบ "I love you รักนะครับ" และแน่นอนว่า พอถามอีกครั้งว่าชัดไหม ตอบกันแทบยกฮอลล์เลยว่า "ไม่ชัดเลย" 555 ก่อนที่เตนล์จะแนะนำเวทีถัดไป
เพลงต่อไปเป็นการคัฟเวอร์เพลงโปรด ‘Die With A Smile’ ของ Lady Gaga กับ Bruno Mars ซึ่งเนื้อหาเปี่ยมไปด้วยสิ่งที่ เตนล์ อยากบอกกับแฟนคลับที่คอยรัก สนับสนุน และยังสร้างความประทับใจให้กับเขาในคอนเสิร์ตครั้งนี้จากการเตรียมแฟนโปรเจ็กต์มากมาย ได้แก่ การแปรกล่องไฟ TEN ERA (ยุคของเตนล์), ONLY TEN (มีเพียงเตนล์คนเดียว) รวมถึงแบนเนอร์และป้ายข้อความ “Millions of stars here will always shine for TEN.” (ดาวหลายล้านดวงตรงนี้จะส่องสว่างเพื่อเตนล์เสมอ), “We always shine for each other.” (เป็นดาวส่องสว่างซึ่งกันและกัน), “Through seasons change, our hearts remain. A love that blooms against the rain.” (ฤดูกาลเปลี่ยนไปแต่หัวใจยังคงมั่น ความรักเบ่งบานท่ามกลางสายฝน), “Every bloom says ‘I love you’ just for you.” (เปรียบเสมือนดอกไม้เบ่งบานเพื่อเตนล์) จากนั้นจึงต่อด้วยเวทีพิเศษในเพลง 'Lie With You', เพลง ‘Call Me’ ของ WayV ที่เปลี่ยนสไตล์การแรปใหม่ให้เข้ากับตัวเอง และ ‘Butterfly’ กับบรรยากาศแสนละมุนที่มาพร้อมเอฟเฟกต์เหล่าผีเสื้อโบยบินบนผ้าม่านโปร่งแสงยาว 16 เมตรที่ทิ้งตัวลงมาโอบล้อมเตนล์ โดยที่แฟนๆ ทำโปรเจ็กต์ “We always shine for each other.” (เป็นดาวส่องสว่างซึ่งกันและกัน) ให้เตนล์อีกด้วย
พักยกพูดคุยกันอีกครั้ง เตนล์ขอบคุณสำหรับโปรเจ็กต์พร้อมบอกว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้ก็เหมือนกันคำว่า Stunner แต่ละคนก็มีเสน่ห์เป็นของตัวเอง อยากให้ทุกคนรักตัวเองด้วย ดูแลตัวเองดีๆ แต่ละคนสวยไม่เหมือนกัน หล่อแบบไม่เหมือนกัน และก็เพอร์เฟ็กต์แบบไม่เหมือนกัน เรียกว่าทุกคนล้วนมีเสน่ห์เป็นของตัวเองก็ว่าได้ พร้อมเผยว่า ตอนเลือกเพลง ‘Die With A Smile’ มาร้องก็รู้สึกว่าไม่รู้ว่าจะร้องได้หรือเปล่า คิดเยอะมาก ชอบเพลงนี้แต่รู้ว่าเพลงนี้มันยากเหมือนกัน ใช้เวลาฝึกเพลงนี้นานมาก หวังว่าทุกคนจะชอบ มีแอบถามแฟนๆ ว่า เมื่อกี๊ตอนที่โทรหาคนรักในเพลง ‘Call Me’ นั้นใครรับเหรอ? แน่นอนว่ากรี๊ดรับทั้งฮอลล์ เจ้าตัวรีบออกตัวเลยว่า "เตนล์ไม่ได้เจ้าชู้นะครับ" 555 ถามต่อว่า ตอนเพลง ‘Butterfly’ มีคนร้องไห้หรือเปล่า? มีแฟนๆ พยักหน้า เจ้าตัวเลยบอก "เตนล์เช็ดน้ำตาให้ครับ" งานนี้น้ำตาท่วมฮอลล์กันเลยทีเดียว 555 เตนล์ยังขอบคุณสำหรับเดรสโค้ดสีม่วงวันนี้ที่ทุกคนใส่มาและทำให้มิชชั่นคอมพลีท ก่อนจะชวนทุกคนเข้าสู่เวทีต่อไปที่เรียกเสียงตอบรับอย่างถล่มทลายนั่นก็คือ เมดเลย์เพลงฮิตของ NCT อย่าง ‘Baby Don’t Stop’, ‘Steady’, ‘Smoothie’, ‘영웅 (英雄; Kick It)’ และ ‘Baggy Jeans’
สำหรับเพลง ‘Baby Don’t Stop’ นั้นเตนล์บอกว่า ไม่ได้โชว์ที่ประเทศไทยนานมากเกิน 5 ปี แต่ตอนนี้ไม่มี 'พี่แทยง' เดี๋ยวรอให้แทยงออกมาแล้วค่อยกลับมาโชว์ด้วยกัน จนถึงวันนั้นคงไม่ใช่ 'Baby Don't Stop' แล้วล่ะคงเป็น 'Baby Let's Go'!" 555 และแน่นอนเสียงกรี๊ดถล่มทลาย สำหรับเพลงเมดเลย์นั้นเจ้าตัวบอกว่าร้องคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบก็สนุกเหมือนกัน ก็แค่คิดว่าอยากลองอะไรใหม่ๆ ให้กับเพลงของ NCT เพลงที่เตนล์ชอบก็อยากมาลองให้ทุกคนฟังด้วย ก็เลยเตรียม section นี้มาซึ่งเจ้าตัวบอกว่าชอบทุกเพลง แต่เพลงที่รู้สึกว่าตัวเขาคงไม่ได้มาทำเองก็คือเพลง Steady เพราะงั้นตอนที่คัฟเวอร์เพลง Steady เลยรู้สึกสนุกมากเลย ก่อนจะชวนแฟนๆ เข้าสู่เพลงต่อไปอย่าง 'New Heroes' และเพลงเปิดตัวสุดตื่นตะลึงอย่าง ‘STUNNER’ ซึ่งเป็นเพลงไตเติ้ลจากมินิอัลบั้มชุดที่ 2 และแสดงเป็นครั้งแรกที่นี่เช่นกัน ซึ่งแฟนๆ ก็ยังทำโปรเจ็กต์แปรกล่องไฟ TEN ERA (ยุคของเตนล์), ONLY TEN (มีเพียงเตนล์คนเดียว) อีกด้วย
เตนล์บอกว่า ตอนที่เตรียมเพลง ‘STUNNER’ นั้นก็พยายามหาท่าเต้นที่ชาเลนจ์ง่ายๆ ให้ทุกคนลอง แต่ตอนที่ทำท่าให้ทุกคนลอง แต่ละคนก็ได้แต่อุทาน "ง่ายแบบใดห์" 555 แต่ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันซัพพอร์ตจนเพลงนี้ได้รางวัลด้วย การเตรียมคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่ตัวเขารู้สึกสนุกที่สุดก็คือ เวทีแต่ละเวทีที่ไปทำกันต้องเตรียมใหม่เกือบทุกรอบเลย ที่เกาหลีก็เป็นอีกเซ็ตนึง ที่ประเทศไทยบางเพลงก็เปลี่ยนใหม่ ที่ต่อไปก็อาจจะมีอะไรที่เปลี่ยนไปอีก หรือเพลงบางเพลงก็อาจจะมีเวอร์ชั่นภาษาอื่นมา เรียกว่ามีอะไรเซอร์ไพรส์ตลอด และก่อนที่จะไปเวที(เกือบ)สุดท้าย เตนล์กล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่มาเชียร์คอนเสิร์ตเดี่ยวที่ประเทศไทยครั้งแรกของเขา หวังว่าวันนี้ทุกคนจะได้ความทรงจำดีๆ กลับไป ก่อนจะพาแฟนๆ ไปชมเทคนิคการเต้นอันน่าทึ่งในเพลง ‘Birthday’ และการปรากฏตัวกลางอ่างน้ำบนเวทีพร้อมลีลาอันพลิ้วไหวในเพลง ‘Water’ เป็นเพลงสุดท้าย (ก่อนอังกอร์)
แน่นอนว่าแฟนๆ ยังไม่หนำใจ พร้อมใจกันเรียกหนุ่มเตนล์ให้กลับขึ้นมาอีกครั้งด้วยสรรพนามหลากหลายทั้ง "ชิตพล" "พี่น้องเตนล์" "พี่ชิต" และเจ้าตัวก็กลับขึ้นมาพร้อมเพลง 'Paint Me Naked' ก่อนที่จะกล่าวขอบคุณแฟนๆ อีกครั้งว่าปีที่แล้วเจ้าตัวมีแฟนคอนทุกคนก็มาเป็นกำลังใจและมาสนุกกับตัวเขาตรงนั้นด้วย เพิ่งผ่านไปแค่ 1 ปี ดีใจมากที่ทุกคนยังไม่ลืมกันและยังรักกันอยู่เหมือนเดิม ตอนที่รู้ว่าได้กลับมาที่เดียวกับตอนที่ทำแฟนคอนก็รู้สึกว่า อาจจะเป็นสถานที่เดิมแต่มันมีความทรงจำดีๆ ตอนวันนั้น แล้วก็มา continue ในวันนี้ อยากจะขอบคุณทุกคนมากที่มาสร้างความทรงจำดีๆ กันในวันนี้ 19 เมษายน ปี 2025 วันเสาร์ ขอบคุณมากๆ ที่มาทำให้วันเสาร์ร้อนแรงกว่าวันอาทิตย์ แล้วเดี๋ยววันอาทิตย์มันจะร้อนแรงกว่าวันเสาร์ 555 ขอบคุณทุกคนมากๆ เลย ขอบคุณจริงๆ เจ้าตัวไม่ลืมที่จะขอถ่ายรูปกับแฟนๆ เป็นที่ระลึกก่อนเข้าสู่เพลงสุดท้ายที่อบอวลไปด้วยความร่าเริงและพลังบวกอย่าง Waves
ตลอดระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมง TEN (เตนล์) ได้สร้างสรรค์ความแปลกใหม่ให้กับแต่ละโชว์ด้วยการปรับรายละเอียดอย่างมีลูกเล่นทั้งรูปแบบการแสดง, ดนตรี, ท่าเต้น และการจัดวางตำแหน่งที่สอดคล้องกัน ล้วนแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันและศักยภาพที่เหนือชั้นของเขาในฐานะ ‘Artistic Performer’ หรือศิลปินที่ผสานศิลปะเข้ากับการแสดงได้อย่างลงตัว ยิ่งไปกว่านั้น ยังสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เมื่อคู่ตัวเลขอย่าง ‘10’ และ ‘01’ เคลื่อนที่มารวมกันจะก่อให้เกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เหนือสิ่งอื่นใด TEN (เตนล์) กับแฟนคลับได้กลายมาเป็น ‘STUNNER’ ที่ต่างมอบความตะลึง และความทรงจำอันงดงามให้แก่กันได้สมบูรณ์แบบเต็มสิบอย่างแท้จริง
< แฮชแท็กอย่างเป็นทางการ >
#TEN #李永钦 #텐 #NCT #WayV #威神V #2025TENCONCERT1001MOVEMENT #STUNNER
#2025TENCONCERT1001MOVEMENT_BKK #BANGKOK #SMTrue