อบอุ่นหัวใจกับ 'น้องผักพริก'!! "พัค ชินฮเย" เติมเต็มช่วงเวลาแห่งความทรงจำดีๆ กับแฟนชาวไทยอีกครั้ง ใน “2024 PARK SHIN HYE ASIA TOUR in BANGKOK” [Memory of Angel]

           เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่ดีสมชื่อจริงๆ สำหรับ “2024 PARK SHIN HYE ASIA TOUR in BANGKOK” [Memory of Angel] โดยผู้จัด RegiStar ที่จัดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามแควร์

           หลังจากไม่เจอกันนานนับ 10 ปี... นักแสดงสาวสวย เจ้าของรอยยิ้มหวาน "พัค ชินฮเย" ไม่ทำให้ผิดหวัง เตรียมความ exclusive จัดเต็มมามอบให้เหล่า Thai Starlight Angel (ชื่อแฟนคลับของพัค ชินฮเย) แบบพิเศษสุดๆ ด้วยการขนเพลงมากมายมาร้องแบบ live band ให้แฟนชาวไทยได้ฟังโดยเฉพาะ ทั้งเพลง ARM PILLOW รวมไปถึงเพลงประกอบละครและภาพยนตร์เพื่อมาร่วมย้อนรำลึกครบรอบ 20 ปีการเดบิวต์ในวงการของเธอ เริ่มจากการย้อนกลับไปในปี 2009 กับเพลง WITHOUT WORDS (ประกอบละคร YOU’RE BEAUTIFUL) ซึ่งเธอบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสร้องเพลงประกอบละคร และคิดว่าเป็นผลงานที่ทำให้หลายๆ คนชอบกัน ทำให้ตัวเธอมีแฟนคลับโดยเฉพาะผู้หญิงเยอะมาก ซึ่งเรื่องนี้เธอต้องเล่นเป็น 2 ตัวละครทั้งโก มีนัม และโก มีนยอ ต้องแต่งตัวเป็นผู้ชายด้วย จำได้ว่าตอนแสดงสนุกมากๆ เลย คิดถึงช่วงเวลาตอนถ่ายทำกับบรรดาเพื่อนๆ นักแสดง กับแก๊ง A.N.JELL เธอเชื่อว่าการที่เธอได้มาเจอกับทุกๆ คนจุดเริ่มต้นก็มาจากละครเรื่องนี้ YOU’RE BEAUTIFUL นี้เอง

          นอกจากนี้ยังมีเพลง IT WAS YOU (OST. CYRANO AGENCY) โดยเธอยังเผยว่าเรื่อง CYRANO AGENCY เป็นผลงานที่แค่มีหน้าเธออยู่บนโปสเตอร์ก็รู้สึกภูมิใจมากแล้ว ในเรื่องถึงแม้จะไม่ได้เป็นคนที่มีความรักเอง แต่เป็นคนเชื่อมหรือเป็นคิวปิดให้กับคนสองคน ก็เลยทำให้จำเรื่องนี้ได้เป็นพิเศษ แถมยังเผยอีกว่าปกติเวลามีแฟนมีตจะชอบร้องเพลงประกอบละครหรือเพลงที่ตัวเองชอบให้แฟนๆ ฟังเยอะ แต่สำหรับเรื่องนี้ไม่เคยร้องให้ฟังและไม่เคยคุยถึงเรื่องนี้กันเลย เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ได้ร้อง IT WAS YOU เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมี OST จากละครเรื่อง Heartstrings  ที่ในเรื่องเล่นเป็น ลี กยูวอน นักศึกษามหา'ลัย เอกคายากึม เป็นคนสดใสมากๆ เป็นผลงานที่ได้เธอแสดงร่วมกับอาจารย์ชินกูที่รับบทเป็นคุณปู่อี ดงจิน ที่เป็นศิลปินพันโซรีชื่อดัง เรื่องนี้ก็สนุกมากๆ เช่นกัน จำได้ว่ามหาวิทยาลัยที่ไปถ่ายสวยมากๆ เลย ตอนถ่ายเป็นช่วงหน้าร้อนทำให้เหงื่อออกเยอะมาก

           เพลงต่อมา PITCH BLACK (OST. MY CUTE GUYS) เธอเล่าว่าตอนถ่ายละครเรื่องนี้ทรงผมของโก ดกมี เป็นที่พูดถึงมากๆ เลย ก็มีคนไปดัดผมแบบนี้ตามเยอะมากๆ เลย ชินฮเยยังถามแฟนๆ ว่า ชอบเธอแบบผมลอนหรือผมตรงมากกกว่ากัน พร้อมเผยต่อว่า พอได้ลองใช้ชีวิตเป็นโค ดกมี ที่เลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวก็ทำให้ตัวเธอเองก็เริ่มสนใจสิ่งรอบตัวมากขึ้น อีกเพลงคือ STORY (OST. THE HEIR) ชินฮเยเผยว่าบท ชา อึนซัง ที่เธอเล่นเป็นตัวละครที่ได้รับความรักเยอะมากๆ ในเรื่องชา อึนซัง ยังได้รับความรักจากหนุ่มหล่อเยอะเลย เป็นผลงานที่ทำให้ตัวเธอได้รับความรักอย่างล้นหลาม บทพูดสนุกมากและบรรยากาศในกองถ่ายก็สนุกมากๆ นอกจากนี้เรื่องนี้ยังมีฉากดังๆ เยอะมากเลย ต้องขอบคุณละครเรื่องนี้ที่ทำให้เธอได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทำให้ตัวชินฮเยได้เจอกับ Starlight Angel ที่อยู่ต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เวลาพูดถึงชา อึนซัง สำหรับตัวเธอจะนึกถึง ฉากที่ตัว 'ทัน' เพิ่งรู้ว่าอึนซังอยู่ในบ้านตัวเอง เธอรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากๆ เลยถึงแม้ว่าอาจจะไม่ถึงกับอยู่ด้วยกันแต่ว่าอยู่บ้านหลังเดียวกัน และก็จะมีฉากที่ถ่ายที่คาเฟ่ที่อึนซังไปทำงานพาร์ทไทม์ ทั้ง 'ทัน' และก็ 'ยองโด' จะชอบมาดูอึนซังทำงาน แล้วก็มากวน ละครเรื่องนี้เริ่มถ่ายทำช่วงฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ และก็ถ่ายยาวไปจนถึงฤดูหนาวเลย เป็นช่วงเวลาที่เหมือนวิ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว เหมือนกับชา อึนซัง ในละครนั่นเอง "THE HEIR ผ่านมา 10 ปีแล้วนะคะทุกคน ส่วนตัวรู้สึกว่าเหมือนมันแป๊บเดียวเอง แต่ 10 ปีแล้ว คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นมากเลย" นั่นคือความรู้สึกของเธอค่ะ

          นอกจากนี้ยังมีเพลง DREAMING A DREAM (OST. PINOCCHIO) ละครเรื่องนี้ถ่ายทำตอนฤดูหนาวเหมือนกัน ทำให้รู้สึกว่าตัวเธอเองจะเกี่ยวกับฤดูหนาวตลอดเลย หลายเรื่องเลย แปลกดี เรื่องนี้ก็ถ่ายตอนฤดูหนาว ในบทเป็นนักข่าวด้านสังคม และเรื่องนี้ต้องตั้งใจสะอึกด้วย ตอนถ่ายทำเธอได้ประสบการณ์ที่หลากหลายมาก และตอนนั้นก็มีคนถามเยอะมากเลยว่า "สะอึกยากมั้ย" ซึ่งเอาจริงๆ แล้วเธอบอกว่าไม่ยากเท่าที่คิด แต่ถ้าทำบ่อยๆ มันจะเจ็บคอ เรื่องนี้มีฉากสวยๆ เยอะ แต่ส่วนตัวเองนั้นรู้สึกว่าฉากที่ถ่ายที่ชอนซังโดที่ใส่ชุดนักเรียนนั้นสวยมากๆ เลย รวมทั้งกรวยจราจรด้วย จำฉากนั้นได้ดีมากๆ สาวชินฮเยยังพูดถึงเรื่อง My Annoying Brother ที่เรื่องนี้มีดีโอ EXO และโจ จองซอก ที่ช่วงนี้ฮอตมากๆ แสดงนำ เธอบอกว่าเคมีของผู้ชายสองคนนี้สุดยอดไปเลย เป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่น้อง อยากให้ทุกคนได้ดู รวมไปถึงเรื่อง Temperature of Love ที่เธอเล่นเป็นยู ฮเยจอง ตอนถ่ายทำสนุกมากๆ และตัวละคร ยู ฮเยจอง ก็มีความหมายสำหรับตัวเธอมากๆ เช่นกัน เป็นผลงานที่ทำให้พัฒนาตัวเองไปอีกเลเวลนึง และในปี 2018 ที่ผ่านมา เธอก็มีละครเรื่อง Memories of the Alhambra ที่แสดงเป็นฮีจู โดยในเรื่องฮีจูจะมีเป็นตัวละครในเกมด้วยชื่อว่าเอ็มม่า เรื่องนี้ต้องไปถ่ายต่างประเทศเยอะ เธอยังบอกว่าในช่วงอายุ 20 ต้นๆ ก็จะแสดงแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ เยอะ แต่ตั้งปี 2015 ก็จะเริ่มมีแนวอื่นๆ เข้ามาเยอะ พออายุ 20 ปลายๆ ก็จะสามารถแสดงผลงานได้หลากหลายมากขึ้น

          และในปัจจุบันก็กำลังมีผลงานเรื่อง Doctor Slump ที่กำลังออนแอร์อยู่ มีโอกาสได้มาพูดคุยกับทุกคนเกี่ยวกับละครเรื่องนี้ก็รู้สึกมีความสุขมากเลย ได้มาเจอกับคุณพัค ฮยองชิก หรือคุณมยองซู จาก The Heir อีกครั้งในละครเรื่องนี้ สำหรับหนุ่มฮยองชิกนั้นเธอบอกว่าเป็นนักแสดงที่ตอนถ่ายทำก็คิดตลอดเลยว่า 'เคมีเราเข้ากันขนาดนี้ได้ยังไง' ฮยองชิกเป็นคนที่มีเอเนอร์จี้ล้นหลามมากๆ มีความสามารถเยอะ มีแพชชั่น ทำให้ตัวเธอเองก็ได้รับเอเนอร์จี้นั้นมาเหมือนกัน รู้สึกสนุกและมีความสุขมาก สาเหตุที่เลือกเรื่องนี้เพราะตอนนี้ที่เกาหลีมีคนจำนวนมากที่เป็นซึมเศร้า หดหู่ เป็นกันเยอะเหมือนเป็นหวัดเลย แต่เอาจริงๆ แล้วเธอบอกว่า ทุกคนที่ใช้ชีวิตก็ต้องมีสักครั้งที่รู้สึก slump หรือหดหู่ ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าภาพของฮานึลที่เป็น slump แล้วพยายามเอาชนะมัน ข้ามผ่านมันให้ได้ ด้วยคนรอบตัว ครอบครัวของเขา เพื่อนของเขา รู้สึกว่าเป็นภาพที่อบอุ่นมากๆ ตอนที่เลือกแสดงเรื่องนี้ก็รู้สึกว่ามันน่าจะดีถ้าเกิดว่าตอนนี้มีใครที่กำลัง slump อยู่หรือว่าก่อนหน้านี้เคยอยู่ในช่วงหดหู่มาก่อนหรือมีแผลในใจที่รักษาไม่หาย ถ้าได้ดูผลงานเรื่องนี้แล้วได้รับการปลอบประโลมใจก็น่าจะดี ส่วนตอนนี้เธอก็กำลังเตรียมผลงานใหม่อยู่เรื่อง The Judge from Hell อยากให้ทุกคนติดตามกันเยอะๆ นั่นเอง

          จบช่วงแรกของงานไปแล้ว ช่วงที่ 2 ของ “2024 PARK SHIN HYE ASIA TOUR in BANGKOK” [Memory of Angel] ยังได้ โบ (ธนากร ชินกูล) มาเป็นพิธีกรร่วมสร้างความสนุกสนาน ช่วงนี้สาวชินฮเยได้เผยความรู้สึกที่ได้กลับมาเจอกับ Starlight Angel ชาวไทยอีกครั้งว่า ไทยเป็นประเทศที่เธอตั้งตารอจะกลับมาเพราะ 10 ปีที่แล้วเคยมาจัดแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทยแล้วก็ประทับใจมากๆ ตอนนั้นร้องไห้แงเลย จำได้ว่าตอนนั้นที่มาแฟนๆ จะมีชื่อเล่นที่เรียกเธอด้วย 'น้องผัก' และจะมีคำพูดที่วนอยู่ในหัวเธอตลอดประมาณว่า "รักนะ น้องผัก" อะไรประมาณนี้ คิดมาตลอดเลยว่ามันแปลว่าอะไร มาคราวนี้ก็จะกลับมาถามความหมาย หนุ่มโบเลยแจงก่อนเลยว่า 'ผัก' ก็มาจากพัค ชินฮเย นั่นเอง สาวสวยก็ไม่วายถามต่อว่า คือเมื่อ 10 ปีที่แล้วตัวเธอยังเด็ก แต่ตอนนี้ไม่เด็กแล้ว ประมาณว่า ยังเรียกน้องผักได้อยู่เหรอ??? ตอนนี้อายุก็น่าจะเปลี่ยนมาเป็น 'เพื่อน' หรือ 'พี่' ได้แล้ว งานนี้แฟนๆ บอกตรงกันว่า ยังไงความรู้สึกเธอก็คือ 'น้อง' ตลอดไป ยังไงเธอก็ยังเด็กอยู่ โดยสำหรับช่วงที่ 2 นี้ สาวชินฮเยยังชวนแฟนๆ มาสนุกกับเกมส์ และชาเลนจ์ท้าทายความสามารถ ที่เรียกเสียงหัวเราะจากแฟนๆ ไม่ขาดสาย เช่น Q&A, เกมส์ตกปลา, เกมส์ใบ้คำ, ให้ทำท่าน่ารักๆ ฯลฯ งานนี้ เธอได้ชื่อไทยกลับไปใหม่ด้วยว่า "น้องผักพริก" หมายถึงพัคชินฮเยที่สวยแซ่บนั่นเอง! ก่อนจะจบงานด้วยความอบอุ่น ด้วยเซอร์ไพรส์โปรเจ็กต์จากแฟนชาวไทยทำเอา "พัค ชินฮเย" ยิ้มทั้งน้ำตา

          "ตอนนี้มีความรู้สึกเต็มไปหมดเลยค่ะ ตอนปีที่แล้วที่จัดแฟนมีตติ้งที่เกาหลีที่ครบรอบเดบิวต์ 20 ปี พอขึ้นเวทีปุ๊บก็รู้สึกเหมือนจะร้องไห้ออกมาเลยค่ะ ตอนนั้นก็พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ และวันนี้ ที่นี่เอง ก็เหมือนกัน ที่จริงตอนซ้อมก็ยังโอเคอยู่ แต่พอแฟนมีตติ้งเริ่มขึ้นก็ใจเต้นมากๆ มันมีวินาทีมีโมเมนต์ที่รู้สึกเป็นเกียรติเยอะมากๆ เลย ในฐานะนักแสดงหญิง อาชีพนักแสดงได้รับความรักจากแฟนๆ เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นแฟนๆ ที่เกาหลีเองหรือแฟนๆ ต่างประเทศจนทำให้ฉันสามารถมาจัดแฟนมีตติ้งนี้ได้ ก็รู้สึกเป็นเกียรติค่ะ ตอนนั้นมีความสุขมากๆ ก็เลยเอนจอยสุดๆ เลย ทุกๆ วินาทีมีความสุขมากๆ เลยจนอยู่กับช่วงเวลานั้นอย่างเดียวเลย ต้องขอบคุณทุกคน ที่ฉันมีความสุขได้ขนาดนี้ก็เป็นเพราะทุกคน แต่ว่าบางทีก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน กลัวว่าวันนึงจะไม่ได้รับความรัก กลัวจะเป็นคนที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ในใจมุมนึงก็รู้สึกว่า ถ้าฉันแสดงภาพตัวเองจริงๆ ออกมาเนี่ย แฟนๆ ก็คงจะชอบ แต่ว่าในอีกมุมนึงก็รู้สึกกลัวว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง ก็จะรู้สึกว่าต้องพยายามเก็บตัวเองเอาไว้ กดมันเอาไว้ บางทีก็เลยกังวลว่า อยากจะต้องแสดงภาพดีๆ อย่างเดียว ที่แฟนๆ อยากเห็นเท่านั้นหรือเปล่า แต่รู้สึกว่างานวันนี้เหมือนเป็นงานที่จะบอกกับตัวฉันว่า ไม่ต้องกังวลหรอก ความกลัวเรื่องเหล่านั้น อยากบอกทุกคนว่าขอบคุณมากๆ นะคะ"

          ก่อนจะส่งท้ายกับบทเพลงที่เธอบอกว่าเนื้อเพลงมันทัชใจมากๆ เลย เหมือนกับที่ทุกคนเป็นดวงดาวให้กับเธอ ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มองเห็นได้เสมอ เธอเองก็อยากจะเป็นเหมือนป่าแห่งนึงที่ให้ทุกคนมาพักพิง มาฮีลลิ่ง กับชินฮเย เวลาเหนื่อยล้า กับเพลง Forest นั่นเอง

          "ขอบคุณทุกคนจากใจจริงที่วันนี้มาอยู่ด้วยกัน ทำไมทุกคนชอบทำให้ร้องไห้อ่ะ...พอคิดก็เหมือนจะร้องไห้อีกแล้ว วันนี้สนุกมั้ยคะวันนี้สามารถทดแทน 10 ปีที่เราไม่เจอกันมั้ยคะ เสียดายใช่มั้ยคะ วันนี้ฉันเองก็เสียดายเหมือนกัน ฉันจะตั้งใจถ่ายละคร The Judge from Hell แล้วจะกลับมาอีกนะคะ ครั้งนี้เราใช้เวลานานมากกว่าจะได้เจอกัน ครั้งหน้าสัญญาว่าจะไม่นานขนาดนี้นะคะ ขอบคุณที่รอชินฮเยนะคะ" ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง I’M SAYING และนั่นคือของขวัญครบรอบ 20 ปีของการเดบิวต์จากสาว 'พัค ชินฮเย' เป็นความทรงจำดีๆ และเป็นพลังที่ทั้งตัวเธอและแฟนๆ มอบได้ให้แก่กัน

          ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.registarthailand.net

www.facebook.com/RegiStarThailand

#MemoryofAngel #ParkShinHye #พัคชินฮเย #ParkShinHyeAsiaTourinBKK #RegiStar