We are T~ Now and Forever! ตำนานตลอดกาลแห่งเค-ป๊อป TVXQ! เปิดประสบการณ์การแสดงอันเหนือชั้น ในคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 20 ปี ‘2024 TVXQ! CONCERT [20&2] IN BANGKOK’

Last updated: 12 ก.พ. 2567  | 

We are T~ Now and Forever! ตำนานตลอดกาลแห่งเค-ป๊อป TVXQ! เปิดประสบการณ์การแสดงอันเหนือชั้น ในคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 20 ปี ‘2024 TVXQ! CONCERT [20&2] IN BANGKOK’

          ตำนานตลอดกาลแห่งเค-ป๊อป TVXQ! (ทงบังชินกิ) ประกอบไปด้วย 2 สมาชิก คือ ‘U-KNOW’ (ยูโนว์) และ ‘MAX CHANGMIN’ (แม็กซ์ ชางมิน) เปิดประสบการณ์การแสดงอันเหนือชั้น ในคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบฉลองครบรอบเดบิวต์ 20 ปี ‘2024 TVXQ! CONCERT [20&2] IN BANGKOK’ (ทูเธาซันด์ทเวนตี้โฟร์ ทงบังชินกิ คอนเสิร์ต [ทเวนตี้แอนด์ทู] อิน แบงค็อก) วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 18.00 น. ณ ยูเนี่ยน ฮอลล์ 2 ยูเนี่ยน มอลล์

          เมื่อแสงไฟสาดส่องพร้อมบีทแรกที่คุ้นเคยดังขึ้นในเพลงอันทรงพลัง ‘Rising Sun (순수)’ ที่โชว์เอกลักษณ์ความเป็น TVXQ! (ทงบังชินกิ) ความตื่นเต้นก็ถูกปลุกขึ้นท่ามกลางเสียงเชียร์แห่งความคิดถึงของ Cassiopeia (แคสสิโอเปีย: ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ต่อกันด้วย 'Jungle', '운명(The Chance of Love)', เพลงโซโล่ของชางมินที่ได้โชว์ทักษะการร้องแบบระเบิดพลังอย่าง 'Devil' และยังได้เห็นเสน่ห์ของหนุ่มคนนี้ที่มีทั้งความดาร์คและความเซ็กซี่, 'Wrong Number' ที่หลายคนคิดถึงกันมากๆ รวมไปถึงเพลงใหม่ของพวกเขาอย่าง 'Down' ก่อนจะทักทายแคสสิโอเปียและแนะนำตัวอย่างเป็นทางการทั้งภาษาเกาหลีและภาษาไทย "สวัสดีครับ พวกเราทงบังชินกิครับ" และต้อนรับแฟนๆ เข้าสู่คอนเสิร์ต ‘2024 TVXQ! CONCERT [20&2] IN BANGKOK’

          งานนี้หนุ่มยูโนว์ยังได้ทบทวนสกิลล์ภาษาไทยอีกครั้ง "สวัสดีครับ ผมชื่อยูนโฮนะครับ ทุกคนสบายดีมั้ยครับ ดังอีกครับ" พร้อมเผยอีกว่ารู้สึกคิดถึงทุกคนมากๆ ไม่ได้มาประเทศไทยประมาณ 5 ปี จำได้ว่ามาเมืองไทยครั้งล่าสุดตอน TVXQ! CONCERT – CIRCLE ตอนปี 2019 ตอนนี้ก็รู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง และได้มาเจอทุกคนตอนครบรอบ 20 ปีด้วย ด้านชางมินแนะนำตัวเองอีกครั้ง "สวัสดีครับ ผมทงบังชินกิ ชางมิน นะครับ" ก่อนโชว์สกิลภาษาไทย "คิดถึงพวกเรามั้ยครับ" ทั้งนี้ที่ผ่านมาโรคระบาดโควิดทำให้ไม่ได้เจอกันนานมากๆ และเพราะพวกเขาไม่ได้เจอแฟนๆ ชาวไทยนานมากๆ ก็อยากจะบอกว่าคิดถึงทุกคนมากๆ เลย "จะบอกว่ารอยยิ้มแคสสิโอเปียชาวไทยทุกคนสวยมากเลยนะครับ ตอนนี้ก็เลยรู้สึกมีความสุขมากๆ ที่ได้เห็นรอยยิ้มของทุกคนแบบนี้" น้องเล็กชางมินยังพูดถึงครั้งที่ยุนโฮเคยมาเที่ยวประเทศไทยด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าจำได้ว่าตอนที่มาเที่ยวประเทศไทยเคยนั่งตุ๊กๆ ด้วย ซึ่งตอนนั้นแฟนๆ ทุกคนก็ต้อนรับอบอุ่นมากๆ เลย ก่อนแอบแซวแคสสิโอเปียว่า มาส่วนตัวนะ แต่ทุกคนก็....555 และแม้ตอนนี้จะอยู่ในเดือนกุมภาพันธ์แล้ว แต่ทั้งสองก็ขอสวัสดีปีใหม่แฟนๆ ชาวไทยย้อนหลัง "สวัสดีปีใหม่นะครับ ทุกๆ คน" ปีใหม่ผ่านไปแล้ว 1 เดือนแต่ก็ดีใจมากๆ ที่ได้เจอแคสสิโอเปียชาวไทยแบบนี้ พร้อมเผยต่อว่าพวกเขาเพิ่งจะปล่อยเพลงใหม่ Rebel ออกมา ซึ่งอัลบั้มใหม่ล่าสุดให้ชื่อว่า ‘20&2’ เป็นอัลบั้มเต็มชุดที่ 9 ที่ตั้งใจจะแสดงให้เห็นถึง 20 ปีที่ผ่านมาของพวกเขา และตั้งใจที่จะมีเส้นทางใหม่ที่จะก้าวเดินต่อไปของทั้งสองคนด้วย โชว์ในวันนี้ทุกคนจะได้เห็น 20 ปีที่ผ่านมาของทงบังชินกิ และความเป็นทงบังชินกิอย่างชัดเจนเลย

          ว่าแล้วก็เข้าสู่เซ็ตลิสต์ต่อไปทั้ง 'Rodeo', เพลงที่โชว์เสน่ห์อันดุดัน '왜 (Keep Your Head Down)', เพลงฮิตในตำนาน 'Purple Line' ที่มีแฟนชานท์ดังสนั่นสมกับการรอคอยเพราะเป็นเพลงที่ทุกคนคิดถึง, เพลงโซโล่สุดเท่ของยูโนว์อย่าง 'Vuja De' ที่มาพร้อมกับลุคสุดแพรวพราว, 'Something', 'Life's A Dance', 'The Way U Are (Unplugged Ver.)' นอกจากนี้แฟนๆ ยังร่วมกันทำปรเจ็กต์ปิดแท่งไฟและเปิดแฟลชโทรศัพท์ระหว่างเพลงบัลลาดแสนไพเราะอย่าง 'I'll Be There', 'I Wannaa Hold You' และ '믿어요 (I Believe)' ซึ่งกลายเป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจกับการเปลี่ยนทะเลแท่งไฟสีแดงให้สุกสกาวดั่งดวงดาวสร้างบรรยากาศอันสวยงาม

          จบเพลง 2 หนุ่มแวะพูดคุยกันอีกครั้ง โดยที่หนุ่มยูโนว์ยัง "ขอเสียงหน่อยครับ" เป็นภาษาไทยอีกด้วยพร้อมเผยว่ารู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้มีโอกาสเพอร์ฟอร์มเพลง Vuja De ให้ทุกคนได้ดูกัน โดยครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตหลังจากที่พวกเขาได้มีทัวร์ Circle ไปเมื่อปี 2019 ก็เลยตั้งใจคิดอะไรหลายๆ อย่างมาก หวังว่าแฟนๆ จะรู้สึกถึงความรักของพวกเขา ปลายปีที่แล้วทงบังชินกิมีอายุครบ 20 ปี ปีนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 21 แล้ว เป็นวงผู้ใหญ่แล้ว รู้สึกได้ว่าความรักของแฟนๆ ยิ่งใหญ่มากๆ เลย แม้ว่าพวกเขาจะพยายามมากๆ เพื่อจะตอบแทนความรักของทุกคน แต่ความรักของทุกคนยิ่งใหญ่มากๆ พวกเขาอาจจะตอบแทนไม่หมด ความมุ่งมั่นและเป้าหมายของทงบังชินกิที่เป็นผู้ใหญ่แล้วก็คือการที่พวกเขาและแฟนๆ จะคอยดูแลกัน อยู่ด้วยกัน และสร้างความทรงจำดีๆ ไปด้วยกันตลอดไป และพอได้กลับมาที่ประเทศไทยครั้งนี้ทำให้รู้สึกว่าอยากจะมีโอกาสและก็หาโอกาสกลับมาหาแคสสิโอเปียชาวไทยบ่อยมากยิ่งขึ้น อยากจะขอบคุณแคสสิโอเปียชาวไทยที่อยู่เคียงข้างพวกเขาและรอพวกเขาตลอดมา ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาและอนาคตของทงบังชินกิ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะแฟนๆ อยู่เคียงข้างพร้อมกล่าว "ขอบคุณคร้าบบบ" เป็นภาษาไทยอีกครั้ง

         จากนั้น 2 หนุ่มก็เชิญชวนเหล่าแคสสิโอเปียย้อนเวลาไปช่วงปี 2004 ในเพลง 'Hug' ที่สร้างสีสันความมีชีวิตชีวาให้กับคอนเสิร์ตกับการย้อนวัยเยาว์อันสดใสโดยที่หนุ่มๆ ขึ้นเวทีมาพร้อมกับที่คาดผมหูแมว ต่อด้วยการขับรถของเล่นในเพลง ‘Drive’ รวมถึงยังทำเซอร์ไพรส์เดินลงเวทีมาทักทายแฟนๆ ทั่วทั้งฮอลล์อย่างใกล้ชิดในเพลง 'Crazy Love' ก่อนจะสนุกไปด้วยกันในเพลง ‘풍선 (Balloons)’ ท่ามกลางของตกแต่งน่ารักๆ ต่อกันด้วยเพลงที่สะกดผู้ชมดั่งต้องมนตร์ '주문 - MIROTIC' ที่แฟนชานท์เพลงนี้ถือว่าที่สุด รวมไปถึง 'Rebel' เพลงไตเติลจังหวะหนักหน่วงจากอัลบั้มใหม่ล่าสุดก่อนที่จะลงจากเวทีไป

          เหล่าแคสสิโอเปียไม่ยอมให้ทงบังชินกิกลับไปง่ายๆ พร้อมใจกันตะโกน "ทงบังชินกิ" ให้กลับขึ้นมาอีกครั้ง และ 2 หนุ่มก็ไม่ทำให้ผิดหวังกลับมาอีกครั้งกับเพลงช้าความหมายดีๆ โชว์เสียงประสานอันตราตรึงใจอย่าง 'Love In The Ice' ต่อด้วย 'Thanks To' ที่เหล่าแคสสิโอเปียทำแฟนโปรเจกต์ชูแบนเนอร์ที่เขียนว่า ‘난 아직도 널 처음 본 날처럼 빛나는 별’ (ฉันยังคงเป็นดวงดาวที่ส่องสว่างให้คุณเหมือนวันแรกที่ได้เจอกัน) จบเพลงหนุ่มๆ บอกขอบคุณทุกคนที่อังกอร์ พร้อมเผยความประทับใจจากข้อความที่เขียนไว้ในแฟนโปรเจ็กต์ รวมถึงความประทับใจในตัวแคสสิโอเปียที่อยู่ด้วยกันมานานตั้งแต่ยุคแรกจนถึงเพลงไตเติลล่าสุดอย่าง Rebel ที่เป็นครั้งแรกที่ได้เพอร์ฟอร์มให้ทุกคนดูในประเทศไทย พร้อมบ่นเสียดายมากๆ ที่ตอนนี้เหลือแค่ 3 เพลงสุดท้ายในอังกอร์แล้ว "วันนี้พวกเรามีความสุขมากเลยนะครับที่ได้อยู่กับแคสสิโอเปียชาวไทยนะครับ วันนี้พวกเราได้เติมพลังจากความรักของทุกคนที่อบอุ่นมากๆ เลยนะครับ ปีนี้พวกเราก็จะตั้งใจเต็มที่เพื่อที่จะเป็นทงบังชินกิที่เท่มากยิ่งขึ้นนะครับ" โดยหนุ่มยูโนว์ยังกล่าวย้ำๆ "ขอบคุณครับ" "รักนะครับ" เป็นภาษาไทยด้วยความซาบซึ้งพร้อมเผยว่าเพลงต่อไปจะเป็นเพลงที่บอกความรู้สึกของพวกเขาให้กับทุกคนนั่นก็คือ '항상 곁에 있을게 (Always With You)' ที่ยังสร้างเซอร์ไพรส์รอบสองด้วยการลงมาพบปะประชากรแคสสิโอเปียในฮอลล์อย่างใกล้ชิดทั่วถึงอีกครั้ง ต่อกันด้วย '너희들 것이니까 (I Wish)' และ '세상에 단 하나뿐인 마음 (You're My Miracle)' เพื่อแสดงความขอบคุณแฟนๆ ที่คอยอยู่เคียงข้าง มอบความรักและการสนับสนุนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง 'Catch Me'

          ในช่วงท้ายทงบังชินกิ ยังได้ขอบคุณทีมงานที่ตั้งใจเตรียมงานเพื่อพวกเขารวมไปถึงแดนเซอร์ และที่สำคัญที่สุดคือแฟนๆ ชาวไทยทุกๆ คนพร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก หนุ่มยูโนว์ยังไม่ลืมที่จะถามแคสสิโอเปียเป็นภาษาไทยอีกครั้งว่า "สนุกมั้ยครับ?" พร้อมเผยว่าการที่ได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งนึง ทำให้พวกเขารู้สึกถึงความรักที่แสนอบอุ่นของแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้ง ไม่ได้กลับมาประเทศไทยนานมากเลย ครั้งนี้ได้กลับมาทำให้พวกเขารู้สึกว่าอยากกลับมาประเทศไทยบ่อยๆ พวกเขามีความสุขมากๆ ที่ได้อยู่ตรงนี้และจะกลับมาให้เร็วที่สุดเพื่อสร้างความทรงจำพิเศษร่วมกัน ก่อนทิ้งท้ายว่า "เจอกันเร็วๆ นี้นะครับ"

          ทั้งนี้ 2 สมาชิก ‘U-KNOW’ (ยูโนว์) และ ‘MAX CHANGMIN’ (แม็กซ์ ชางมิน) ได้ร่วมกันถ่ายทอดความสามารถและความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานานกว่า 20 ปี ผ่านการแสดงอันเป็นเลิศที่มีเพียง TVXQ! (ทงบังชินกิ) เท่านั้นที่ทำถึง พวกเขาได้สะท้อนเส้นทางความสำเร็จตลอด 20 ปี ตามชื่อคอนเสิร์ต [20&2] และตอกย้ำสายใยอันไม่เสื่อมคลายระหว่าง TVXQ! (ทงบังชินกิ) กับ Cassiopeia (แคสสิโอเปีย) ที่ได้เดินทางร่วมกันมา ผ่านเซ็ตลิสต์ที่ตั้งใจเรียงร้อยมาอย่างพิถีพิถัน ตลอดช่วงเวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที กับ 26 บทเพลงที่เปี่ยมล้นไปด้วยท่วงทำนองแห่งความทรงจำตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และคำมั่นสัญญาที่จะก้าวไปข้างหน้าร่วมกันในอนาคต

[แฮชแท็กอย่างเป็นทางการ]
#동방신기 #TVXQ! #東方神起 #유노윤호 #UKNOW #최강창민 #MAXCHANGMIN #TVXQ_20n2 #2024_TVXQ_TOUR
#BANGKOK #SMTrue

#2024_TVXQ_TOUR_inBANGKOK

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้