Last updated: 13 พ.ย. 2566 |
อบอวลไปด้วยความรัก... สำหรับงาน “YOOYEONSEOK DEBUT 20th ANNIVERSARY ASIA FANMEETING TOUR IN BANGKOK, FALLING FOR YOO” เมื่อวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ที่โรงละครเคแบงค์สยามพิฆเนศ โดยผู้จัดไฟแรง VVe Entertainment (วีวีอี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) จัดให้แฟนๆ ได้แฮปปี้ และใกล้ชิดกับนักแสดงหนุ่ม "ยู ยอนซอก" อย่างเต็มอิ่ม
นักแสดงหนุ่มหล่อเปิดตัวออกมากับเพลง 너에게 (To you) พร้อมเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ดังสนั่นฮอลล์ ถือเป็นการต้อนรับการกลับมาเยือนเมืองไทย หลังจากที่หนุ่มคนนี้ไม่ได้มานานถึง 5 ปีอย่างอบอุ่น โดยงานนี้ยังได้พิธีกรเจ้าเดิมอย่าง โบ-ธนากร ชินกูล พร้อมกับล่ามสาว เจยอง ขึ้นมาทำหน้าที่เหมือนในงานแถลงข่าว และกล่าวต้อนรับเข้าหนุ่ม 'ยู ยอนซอก' เข้าสู่งานอย่างเป็นทางการซึ่งก่อนอื่นพระเอกหนุ่มได้กล่าวทักทายแฟนๆ เป็นภาษาไทยว่า "สวัสดีครับ ผม ยู ยอนซอก ครับ" พร้อมเผยไม่ได้เจอกันประมาณ 5 ปี วันนี้เลยดีใจมากๆ ที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง เห็นมากันเยอะขนาดนี้ รู้สึกขอบคุณมากเลย ซึ่งปีล่าสุดที่มากรุงเทพฯ คือปี 2018 ความรู้สึกที่ได้มาครั้งนี้คือ รู้สึกคิดถึงมากๆ และแม้แต่ที่เกาหลีเองเจ้าตัวก็ไม่ได้มีแฟนมีตติ้งมานานแล้วโดยเพิ่งจะจัดงาน Anniversary ไป ก็เลยรู้สึกดีใจที่ประเทศไทยเป็นที่แรกที่ได้มาจัดงานแฟนมีตติ้งนี้ และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอกันนานแล้ว แต่พอเจอกันก็รู้สึกอุ่นใจและดีใจที่ได้เจอทุกคนมากๆ หวังว่าวันนี้จะเป็นวันที่เขาและแฟนๆ จะได้สร้างความทรงจำดีๆ กลับไป หนุ่มยอนซอกยังบอกว่าเพลงแรกที่เพิ่งร้องไป มีเปลี่ยนเนื้อเพลงนิดหน่อยในท่อนที่พูดถึง "ท้องฟ้าในฤดูหนาว" แต่พอมาอยู่ในไทยก็ใส่คำว่า 'ไทย' กลายเป็น "ท้องฟ้าไทย" เรียกว่าเอาใจเอฟซีแดนสยามกันสุดๆ
และอย่างที่เกริ่นกันไว้ว่า จนถึงตอนนี้หนุ่มยอนซอกเดบิวต์ครบ 20 ปีแล้ว ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เล่นคือ Oldboy เดบิวต์เมื่อวันที่ 11 เดือน 11 ปี 2003 ก่อนเผยความรู้สึกในการเดบิวต์ครบ 20 ปีว่ารู้สึกเขินๆ ประมาณว่า ถ้าเขาเริ่มงานตั้งแต่ตอนประถมก็น่าจะพูดได้ว่า 20 ปีได้เต็มปาก แต่เพราะเขาเดบิวต์ตอนอายุ 20 และนี่ครบรอบ 20 ปี ก็เลยรู้สึกเขินนิดนึง 20 ปีที่ผ่านมามันมีความหมายมากๆ ตัวเขาตั้งใจกับการเป็นนักแสดง แสดงมาเรื่อยๆ และมันเกิดขึ้นได้เพราะแฟนๆ ทุกคนที่คอยส่งกำลังใจและส่งความรักให้กับเขา พอย้อนกลับไปดู 20 ปีเป็นตัวเลขที่ยิ่งใหญ่มากๆ เป็นเพราะความรักของทุกๆ คนที่ทำให้รู้สึกอย่างนี้
ยู ยอนซอก ยังเผยที่มาของชื่องานแฟนมีตติ้งในครั้งนี้ที่ใช้ชื่อว่า Falling For Yoo เพราะเจ้าตัวรู้สึกว่าแฟนๆ เป็นคนที่มอบของขวัญให้เขามาโดยตลอด แฟนๆ มีแต่ให้ และตัวเขามีแต่รับก็เลยรู้สึกว่า อยากจะเป็นคนที่มอบของขวัญให้กับแฟนๆ ของเขาด้วย เลยมี Fan Song ที่ชื่อว่า Falling ออกมา อยากให้เพลงนี้เป็นของขวัญที่จะมอบให้กับแฟนๆ และรู้สึกว่า คำว่า Falling ก็น่าจะเป็นคอนเซ็ปต์หรืออยู่ในชื่อของงานนี้ได้ เลยตั้งชื่อว่า Falling For Yoo เพราะคำว่า Falling in Love ก็เท่ากับ 'ตกหลุมรัก' ช่วงเวลาที่เขากับแฟนๆ อยู่ด้วยกัน ทุกคนก็ตกหลุมรักเขาและเขาก็ตกหลุมรักแฟนๆ ด้วย และการที่เขาและแฟนๆ มีความรักให้กันและกันแบบนี้และอยู่ด้วยกันมานาน 20 ปีแบบนี้ วันนี้ก็เลยรู้สึกว่ามันจะเป็นช่วงเวลาพิเศษและมีความหมายมากๆ ที่จะได้ย้อนเวลาเก่าๆ ไปด้วยกัน
จากนั้นก็ได้เวลาพาทุกคนเข้าสู่ช่วงแรกของงานกับ Falling for My Memories กับการย้อนไปดูผลงานในรอบ 20 ปีผ่านทางรูปถ่าย แน่นอนว่าเดบิวต์มาแล้ว 20 ปีย่อมมีมีความทรงจำดีๆ มากมายตั้งแต่สมัยเดบิวต์ช่วงแรกจนถึงปัจจุบัน โดยเจ้าตัวได้เตรียมรูปที่แฟนๆ ยังไม่เคยเห็นที่ไหนก่อนมาให้ดูด้วย รูปแรกเป็นรูปสมัยเจ้าตัวอายุ 20 ซึ่ง talk keyword หรือธีมในการพูดคุย ก็จะเกี่ยวกับ #เดบิวต์ช่วงแรก #อายุ20Yoo และ #(รูปผีเสื้อ) ในรูปหน้าตายังละอ่อนมากๆ เป็นช่วงเพิ่งเข้ามหา'ลัย และเดบิวต์ด้วยหนัง Oldboy พร้อมอธิบายแฮชแทกรูปผีเสื้อว่าเป็นเพราะตอนประถม มีงานละครเวทีที่โรงเรียน ชื่อเรื่องเป็นชื่อแมลงชนิดนึง ตอนนั้นเจ้าตัวเล่นเป็นผีเสื้อ แต่ไปๆ มาๆ ก็ได้เล่นเป็นพระเอกด้วย หลังจากที่แสดงไป เพื่อนๆ ในโรงเรียนปรบมือให้ ทำให้รู้สึกภูมิใจและประทับใจมากๆ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากเป็นนักแสดง พร้อมเผยตอนเด็กๆ จะชอบให้มีงานโรงเรียนเพราะชอบขึ้นเวที โชว์ความสามารถ จำได้ว่า เป็นตัวนำตลอดเวลาเล่นเกมส์ และเคยเป็นประธานนักเรียนด้วย และถ้ามีโอกาสได้ไปเจอยู ยอนซอก ตอนอายุ 20 ก็อยากจะบอกกับเค้าว่า "ทำไมไม่ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ ล่ะ" เพราะจำได้ว่าตอนเรียนมหา'ลัย เป็นคนที่ชอบและอินไปกับละครเวที, การแสดง และก็มาแสดงหนังมาเรื่อยๆ จนรู้สึกไม่ค่อยมีโอกาสไปเที่ยว แล้วถ้ายู ยอนซอก ไม่ได้ทำงานนักแสดงก็คิดว่าถ้าตัวเองเป็นเด็กที่เรียนเก่งมากๆ ก็อยากเป็นคุณหมอ หรือไม่ก็สัตวแพทย์เพราะตอนเด็กชอบดูอะไรที่เกี่ยวกับแพทย์นั่นเอง
รูปต่อมาเป็นรูปที่ถ่ายกับผู้กำกับพัค ชานอุค, นักแสดงและสตาฟฟ์จากหนังเรื่อง Oldboy ตอน 20 ปีผ่านไปที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งนึง พร้อมเผยความรู้สึกว่ามันอะเมซิ่งมากๆ รู้สึกว่านี่เป็นที่สุดของภาพยนตร์ ทีมงานทุกคน ผู้กำกับ นักแสดงทุกคน สุดยอดมากๆ รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ถ้าไม่ได้มีผลงานชิ้นนี้ เจ้าตัวบอกว่าคงไม่มีโอกาสนี้ในตอนนี้ทั้งหมดเลย ส่วนรูปต่อมาเป็นคีย์เวิร์ด #ผู้ร่ำรวยงานอดิเรก #พรสวรรค์หลากหลาย #ยอนซอกมือทอง 2 ภาพ เป็นภาพขณะเจ้าตัวขับรถคันโปรด Land Rover Defender ตอนอยู่ดูไบ ส่วนอีกรูปเป็นรูปตอนที่ไปเที่ยวที่ซานดิเอโก ไปกระโดดร่มมา พระเอกหนุ่มบอกว่าเขาเป็นคนที่มีงานอดิเรกเยอะมาก และช่วงนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงก็เลยตีกอล์ฟหรือไม่ก็หาเวลาไปเดินเล่นกับน้องหมาริต้าบ่อยมากขึ้น เอ็มซีโบเลยชวนไปตีกอล์ฟ หนุ่มยอนซอก เลยขอเดิมพันว่าแข่งกันถ้าใครแพ้คนนั้นต้องเลี้ยง 'ต้มยำกุ้ง' และ 'ปูผัดผงกะหรี่' นะ เพราะทั้งสองเมนูนั้น "อร่อยมากๆ" (ภาษาไทย) ก่อนย้ำว่า "มากๆ" แสดงว่าชอบจริงๆ นอกจากนี้ยังมีงานอดิเรกที่สนใจก็คือการเป็นบาริสต้า เพราะในช่วงถ่ายรายการ Coffee Friends ได้มีโอกาสทำงานในร้านกาแฟ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้สอบบาริสต้า หลายปีผ่านไป ตอนถ่าย Hospital Playlist ได้มีโอกาสไปสอบบาริสต้าและผ่านมาได้เรียบร้อย ส่วนถ้าให้เปรียบแฟนๆ ชาวไทยกับเครื่องดื่ม หนุ่มยอนซอกบอกว่าน่าจะเป็นกาแฟม็อคค่า เพราะมีทั้งความหวาน และก็นุ่มนวล
รูปต่อมาเป็นธีม #Reply1994 #การแสดง10ปี #เดบิวต์มิวสิคัล เป็นรูปถ่ายตอนละครเรื่อง Reply 1994 กับรูปช่วงเดบิวต์ละครเวทีเรื่อง Le Passe Muraille ซึ่งเป็นช่วงที่เดบิวต์มาแล้ว 10 ปี สิ่งที่แตกต่างระหว่างยู ยอนซอก ตอนอายุ 20 ช่วงเดบิวต์กับตอนอายุ 30 เจ้าตัวบอกว่า น่าจะเป็นที่มีแฟนๆ เยอะขึ้น หลังจากเล่นเรื่อง Reply 1994 ในบทชิลบงงี่ มีคนรู้จักเยอะขึ้น เป็นผลงานและบทบาทที่เขารู้สึกว่าพิเศษมากๆ และรู้สึกขอบคุณมากๆ ส่วนรูปต่อมาเป็นรูปน้องหมากับธีม #เจ้าหญิงริต้า #สองน้องหมา #พลังบวก น้องหมาของยอนซอกที่ชื่อ 'ริต้า' นั้นเป็นสุนัขที่ถูกเก็บมาเลี้ยงด้วย โดยช่วงที่มาทำงานต่างประเทศแบบนี้ จะมีคุณครูที่ฝึกสุนัขที่รู้จักกันตั้งแต่หนังเรื่อง My Heart Puppy ที่จะมีศูนย์ที่คอยดูแลน้องหมาให้ ก่อนเล่าว่าริต้า เป็นน้องหมาที่ยิ้มตลอดเลย รอยยิ้มกว้างมากๆ เลย เวลาฝึกหรือสอนจะเชื่อฟังมากๆ น่ารัก เรียบร้อย เวลาพาไปกองถ่ายก็จะไม่ดื้อเลย รูปต่อมาเป็นธีม #DailyYoo #ท่องเที่ยวอเมริกา เนื่องจากเจ้าตัวมีเพื่อนสนิทมากๆ ที่อเมริกาก็เลยไปหาและไปเที่ยวด้วย และช่วงนี้เวลาไปเที่ยวก็จะไม่ค่อยวางแผนอะไรมากเหมือนเมื่อก่อน ประมาณว่าไปถึงแล้ว อยากทำอะไรที่ไปได้ก็จะไป รูปต่อมาเป็นธีม #สวัสดีครับ และ #(รูปเครื่องบิน) #(รูปธงชาติไทย) ซึ่งเป็นรูปที่ถ่ายที่เมืองไทยถ่ายเมื่อวาน (3 พฤศจิกายน 2566) ที่เจ้าตัวไปทานอาหารหลังเสร็จงานแถลงข่าวที่ร้านอาหารไทย ทีมงานบอกว่าแถวนี้มีรูฟท็อปหรือดาดฟ้าที่มีชื่อเสียงมากๆ ก็เลยลองไปกับทีมงานเพื่อชมวิวเมืองไทย ได้ชิมค็อกเทลที่เสิร์ฟมาในสัปปะรด พร้อมเผยว่าอาหารที่ชอบทานเป็นพิเศษในเมืองไทยมีเยอะมาก โดยเฉพาะผัดไทย ยังจำรสชาติผัดไทยตอนที่ไปเดินที่ถนนข้าวสารได้ ส่วนสถานที่ๆ อยากไปก็คือเชียงใหม่ มีแต่คนชมว่าที่นั่นสวยมากๆ ซึ่งแฟนๆ ยังแนะนำ กระบี่ ภูเก็ต เพราะทะเลสวย อาหารอร่อย ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าอยากไปมากเหมือนกัน ก่อนจะบอกว่ามีภาษาไทยที่เพิ่งเรียนมาด้วย คำนี้ที่ประเทศไทยฮิตมากๆ เลย นั่นก็คือ "ทั้งหล่อทั้งอบอุ่นแบบนี้ก็ว้าวุ่นเลย!" รวมไปถึงคำว่า "วันนี้คุณสวยจัง" "น่ารักมากๆ" "น่ารักจัง" "รักนะจุ๊บๆ" แสดงให้เห็นถึงความน่ารักของแฟนคลับชาวไทย ส่วนที่คิดว่าเป็นจุดเด่นของแฟนคลับชาวไทยก็คือ เวลาบอกรักคือบอกรักอย่างชัดเจนมากๆ เวลากรี๊ดก็กรี๊ดเสียงดังมากๆ เรียกว่าโชว์ความรักเต็มที่เลย แต่เวลาที่ทุกคนหัวเราะอยู่ พอสบตาปุ๊บทุกคนก็จะเขิน และอีกอย่างคือรอยยิ้มทุกคนสวยงามมากเลย
จบช่วงแรกไปก็มาคุยกันเรื่องผลงานของหนุ่มยู ยอนซอก กันต่อในช่วง Falling For My__________ (เติมช่องว่าง) เนื่องจากผลงานของหนุ่มคนนี้มีเยอะมาก ทั้งภาพยนตร์, ซีรีส์, มิวสิคัล เลยจะขอแบ่งเป็น 1. Falling For My__________ (Adventure) (การผจญภัยของยูยอนซอก) โดยหลังจากเดบิวต์มิวสิคัลเรื่อง Le Passe Muraille เจ้าตัวก็มีผลงานละครเวทีตามมาอีกหลายเรื่องและสำหรับผลงานที่ถือว่าเป็น Adventure เรื่องแรกก็คือละครเวทีเรื่อง Hedwig เมื่อปี 2017 ที่เจ้าตัวจะต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิง ถือว่าท้าทายมากๆ เป็นผลงานที่ทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของหนุ่มยอนซอกเลย ส่วน Adventure เรื่องที่ 2 ของเขาก็คือภาพยนตร์ New Year Blues เมื่อปี 2021 ที่รับบท อี แจฮยอน เรื่องนี้ถ่ายทำที่ต่างประเทศ เป็นคาแรกเตอร์ที่ต้องพูดหลายๆ ภาษาทั้งสเปน, อังกฤษ เลยต้องทำการบ้านเยอะมากๆ และอีกเรื่องคือ My Heart Puppy ในบทมินซู เป็นเรื่องเกี่ยวกับสุนัข เล่นเรื่องนี้เขาลดค่าตัวให้ด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เล่นด้วยใจ ไม่อยากให้มีสุนัขที่ถูกทิ้ง เรื่องนี้ได้เล่นกับสัตว์ที่ใครๆ ก็มองว่าปราบเซียน แต่หนุ่มยอนซอกมีเทคนิกคือถือขนมไว้ตลอด ต้องให้สุนัขทุกตัวรู้ว่า เรามีขนมนะ ถ้ามาหาเราจะได้กินขนมนะ เวลาถ่ายทำในกระเป๋ากางเกงจะมีขนมของน้องหมาไว้ตลอดเลย
มาถึง 2. Falling For My__________ (Good or Bad) 3 เรื่องที่รับบทร้าย เริ่มจากภาพยนตร์ A Werewolf Boy (ปี 2012) รับบท จีแท จำได้ว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นคนที่รังแกและแกล้งพระเอกและนางเอก อย่างซง จุงกิ และ พัค โบยอง ทำให้มีคนเกลียดเขาเยอะมากๆ ส่วนในภาพยนตร์ Hwayi: A Monster Boy (ปี 2013) รับบท พัค จีวอน เป็นคาแรกเตอร์ที่เย็นชามากๆ ส่วนอีกเรื่องเป็น ละคร Narco-Saints (เมื่อปี 2022) รับบท เดวิด ปาร์ค เป็นคาแรกเตอร์ที่ต้องพูดภาษาเกาหลีปนๆ กับภาษาอังกฤษ เล่นเป็นคนที่นิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เมื่อถามว่าในชีวิตจริง ถ้าต้องหลีกเลี่ยงการเจอกับตัวละครสักตัวในสามเรื่องนี้อยากหลีกเลี่ยงการเจอกับตัวละครตัวไหน คำตอบก็คือ จีแท จากเรื่อง A Werewolf Boy เพราะนิสัยเลวมาก เห็นแก่ตัวมากๆ ขี้อวด เป็นนิสัยที่เจ้าตัวไม่ชอบเลย งานนี้แฟนๆ ชาวไทยยังได้ชมตัวอย่างเว็บซีรีส์เรื่องใหม่ที่เจ้าตัวรับบทฆาตกรต่อเนื่องอย่าง A Very Luck Day ที่จะออนแอร์ในวันที่ 20 พฤศจิกายน นี้ กันอีกด้วย เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวทริลเลอร์ ยอกซอก รับบท กึม ฮยอกซู เป็นผู้โดยสารที่เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ได้ขึ้นนแท็กซี่และเกิดเป็นเรื่องราวขึ้น เจ้าตัวบอกว่าที่ผ่านมาเคยมีโอกาสรับบทร้าย แต่กึม ฮยอกซู นี่ร้ายมากๆ ร้ายที่สุด เป็น ไซโคพาธ (Psychopath) แบบจริงจังมากๆ เลยว่างั้น
มาถึง 3. Falling For My__________ (Romance) ยู ยอนซอก ถือเป็นมือโปรในเรื่องรอม-คอม มีผลงานแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ มากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นละคร Warm and Cozy เมื่อปี 2015 ในบท แพค กอนอู, ละคร Dr. Romantic เมื่อปี 2016 ในบท คัง ดงจู หรือละคร The Interest of Love ปี 2022-2023 ในบท ฮา ซังซู หนุ่มยู ยอนซอก บอกว่าไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการรับเล่นละครแนวรอม-คอม เป็นพิเศษขนาดนั้น แต่เวลาไปปรึกษาคุณครูสอนการแสดงก็จะถามว่า ถ้าซีนแบบนี้ แอ็คติ้งแบบนี้ จะรู้สึกตื่นเต้น หวั่นไหว ตกหลุมรัก มากกว่ามั้ย ส่วนความรัก หรือ โรแมนซ์ ในความรู้สึกของยอนซอกก็คือ การเป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างเสมอ เวลาอยู่ด้วยกันก็จะมีความสุขมากยิ่งขึ้น ก็เลยรู้สึกว่า แฟนๆ มอบความรักให้กับเขามาโดยตลอด คอยอยู่เคียงข้างกันแบบนี้ และเขารักแฟนๆ ของเขามากๆ พร้อมบอกรักแฟนๆ เป็นภาษาไทยอีกครั้งว่า "ผมรักคุณ"
ต่อมาเป็น 4. Falling For My__________ (Turning Point) ละครที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของเขานั่นก็คือละครเรื่อง Reply 1994 เมื่อปี 2013 ในบท ชิลบงงี่ ที่ทำให้เขาได้รับความรักมากมาย เป็นเรื่องที่ทำให้ทุกๆ คนรู้จักเขามากขึ้น ส่วนสิ่งที่ทำให้หลายคนชอบชิลบงงี่ อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนที่เวลารักใครแล้ว ความรักของเขาจะไม่เปลี่ยน ความรักของเขาจะสม่ำเสมอตลอด ส่วนเรื่องต่อมาก็คือละคร Mr. Sunshine เมื่อปี 2018 ในบท คู ดงแม ที่จะเห็นฉากแอ็คชั่นที่ใช้ดาบสุดเท่ของเขา ก่อนเล่าถึงฉากที่วิ่งเท้าเปล่าถือดาบเข้าไปปกป้องนางเอกซึ่งตอนนั้นวิ่งเท้าเปล่าถ่ายจริงๆ จำได้ว่าเจ็บเท้ามากๆ เรียกว่าทุ่มเทมากๆ เป็นซีนที่หลายคนประทับใจ และเรื่องสุดท้ายคือละคร Hospital Playlist ในปี 2020–2021 ในบท อัน จองวอน เรื่องนี้แฟนๆ กรี๊ดดังมาก ทุกคนรักเรื่องนี้มากๆ ส่วนเมื่อถามว่าถ้าไม่ได้เล่นบทตัวเองมีบทไหนใน คุณหมอแก๊ง99 (ในเรื่อง) ที่อยากจะเล่น เจ้าตัวบอกว่า เจ้าตัวบอกว่าอยากจะเล่นเป็น แช ซองฮวา เพราะเป็นคนที่ร้องเพลงไม่ค่อยเป็น ร้องเพลงเพี้ยนตลอด น่าจะสนุกดี และเป็นคนที่ฉลาดมาก และในบรรดา 3 คาแรกเตอร์ ถ้าอยากให้เลือก 1 คนเป็นเพื่อนสนิทก็อยากจะเลือก อัน จองวอน
จบจาก 2 ช่วงไปเจ้าตัวกลับเข้าไปหลังเวทีก่อนโผล่มาทำบิ๊กเซอร์ไพรส์ด้วยการเดินพบปะประชากรชั้น 1 อย่างทั่วถึง ได้ยลความหล่อ ความเท่ ในระยะประชิดทำเอาแฟนๆ แทบตั้งตัวไม่ติด ว้าวุ่นกันเลยล่ะทีนี้ จากนั้นหนุ่มหล่อก็พาทุกคนเข้าสู่ช่วง Falling For My You เปิดข้อความจากแฟนๆ ที่ส่งหายอนซอก ข้อความแรก "ช่วยแสดงหน้าตาท่าทางต่างๆ เช่น เขิน หัวเราะ โกรธ มีความสุข ตามหัวข้อนะคะ" อยากให้แสดงอารมณ์ต่างๆ ในแบบของยู ยอนซอก เจ้าตัวทำท่าต่างๆ ตามอิโมจิที่ให้โดยไม่มีอิดออดทั้งหัวเราะ, โกรธ และแฮปปี้ ที่ทำเอาเหล่าสาวๆ ในฮอลล์อมยิ้มไปตามๆ กัน ส่วนข้อความที่ 2 "ช่วยวาดรูปเพื่อแฟนๆ หน่อยครับ" ให้วาดรูปที่แสดงความรู้สึกถึงความรักที่มีต่อแฟนๆ ซึ่งพระเอกหนุ่มวาดอิโมจิดวงตา 2 ข้างรวมถึงปากเป็นรูปหัวใจ สื่อความหมายว่าทุกอย่างเต็มไปด้วยหัวใจหรือความรัก นั่นเอง ข้อความที่ 3 "อยากให้พี่ยอนซอกจ้องตากับแฟนคลับสัก 8-10 วินาที" โดยกติกาก็คือใครกะพริบตาหรือหลบตาก่อนเป็นฝ่ายแพ้ งานนี้มีการสุ่มเลือกผู้โชคดีเล่นเกมจ้องตากับยู ยอนซอก ซึ่งถ้าพระเอกของเราแพ้จะมีบทลงโทษและเจ้าตัวพ่ายแพ้ให้กับแฟนคลับคนที่ 2 จึงต้องโดนลงโทษด้วยการทำท่าให้น่ารักที่สุด 3 ท่าซึ่งรวมทั้งท่าจิ้มแก้มที่เห็นแล้วต้องบอกว่าน่ารักสไตล์หนุ่มเท่ล่ะนะ
มาถึงข้อความ 4 "ยังลืมชิลบงงี่ไม่ได้ ฝึกซ้อมใหม่ทุกปีเลย วันนี้อยากเจอกับชิลบงงี่อีกครั้งค่า" โดยครั้งที่แล้วที่ยอนซอกมามีการเล่นโยนบอลด้วย วันนี้ก็เลยอยากกลับมาเล่นอีกครั้งนึง เป็นการเดินตามรอยละคร Reply 1994 ที่ยอนซอกเล่นเป็นพิตเชอร์หรือคนขว้างลูก วันนี้ยอนซอกจะเป็นตัวตี นั่นก็คือการตีลูกเบสบอลให้แฟนๆ ผู้โชคดีในฮอลล์ ซึ่งเจ้าตัวได้เซ็นลงบนลูกบอลให้เป็นของขวัญเป็นจำนวน 3 ลูกอีกด้วย มาถึงข้อความ 5 กับการทำ Morning Call ด้วยข้อความ "ตื่นได้แล้ว ถึงเวลาต้องลุกแล้วนะครับ My Love วันนี้เรานัดว่าจะเจอกันนะ รีบตื่นรีบมาเร็ว ผมออกมารอแล้วนะ คิดถึงนะ รีบมานะ" ฟังแบบนี้แล้วจะตื่นไหวมั้ยน้า??? 555
จบช่วงที่ 2 เจ้าตัวบอกความรู้สึกของงานในวันนี้ว่า "ผมไม่ได้มานาน 5 ปี อยากขอบคุณทุกคนที่ต้อนรับผมอย่างอบอุ่นขนาดนี้ เวลาผมยืนอยู่บนเวทีแบบนี้แล้วมองไปที่ทุกคน ทุกคนมีสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ซึ่งความรักนั้นผมได้รับแล้ว อยากขอบคุณทุกคนมากๆ เลย และสัญญาว่าจะกลับมาอีกอย่างแน่นอน หวังว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีกนะครับ วันนี้ขอบคุณมากๆ ที่ช่วยกันสร้างความทรงจำดีๆ แบบนี้นะครับ" "วันนี้ผมสนุกมาก เพลงต่อไปเป็นเพลงสุดท้ายของวันนี้แล้ว เป็นเพลงที่ผมเตรียมเพื่อที่จะมอบให้กับแฟนๆ ในวาระครบ 20 ปี เป็นเพลงที่เต็มไปด้วยความรักที่ผมอยากจะขอบคุณทุกๆ คน เป็นเพลงที่พิเศษมากๆ มีความหมายมากๆ สำหรับพวกเราทุกๆ คนเลย ขอมอบเพลงนี้ให้กับทุกๆ ท่านเลยนะครับ" ก่อนตอกย้ำเป็นภาษาไทย "รักนะ" พร้อมส่งมอบบทเพลงสุดท้ายอย่าง Falling ก่อนอำลากันไป
ไม่ได้เจอกัน 5 ปีจะให้กลับไปง่ายๆ ได้อย่างไร งานนี้แฟนๆ เลยส่งเสียงเรียก 'ยู ยอนซอก' ให้กลับมาหากันอีกครั้ง และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังกลับมาพร้อมบทเพลง 발길을 뗄 수 없으면 (When If I Cannot Walk Away) ที่บอกหนุ่มยอนซอกล่าว่าเป็นเพลงจากมิวสิคัลเรื่อง Werther เตรียมเพลงนี้เพราะรู้สึกว่า เขาคงเดินออกจากตรงนี้ไปไม่ได้เพราะช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันกับแฟนๆ มีความสุขมากๆ เตรียมเพลงนี้มาเพราะเชื่อว่ายังมีหลายๆ คนที่ไม่เคยดูละครเวทีเรื่องนี้ ก่อนบอกว่ารู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายได้ของขวัญมาโดยตลอดก็เลยอยากจะมอบตอบแทนให้กับแฟนๆ ด้วย วันนี้ก็เลยเขียนจดหมายมาอ่านให้ทุกๆ คน อาจจะไม่ชัดเท่าไหร่ แต่หวังว่าทุกคนจะชอบ โดยเนื้อความในจดหมายก็คือ "ผมดีใจมากๆ ที่ได้มาฉลองครบรอบ 20 ปีในแฟนมีตติ้งที่ประเทศไทย วันนี้ผมมีความสุขและสนุกๆ มากๆ กับช่วงเวลาที่มีความหมายนี้ คงเป็นเพราะทุกคนที่เมืองไทยให้การสนับสนุนและให้ความรักกับผมครับ ผมขอขอบคุณจากหัวใจจริงๆ ครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกเร็วๆ นี้ที่ประเทศไทย และผมหวังว่าแฟนๆ ชาวไทยจะให้การสนับสนุนผมต่อไปเรื่อยๆ ผมก็จะอยู่ข้างพวกคุณเช่นกันครับ ผมรักคุณ" เป็นภาษาไทยที่ชัดเจนมากเลยทีเดียว
จากนั้นเจ้าตัวก็ขอถ่ายรูปกับแฟนๆ แต่ก่อนจะได้ถ่าย แฟนๆ เซอร์ไพรส์กลับด้วยวีซีอาร์โปรเจ็กต์รวบรวมผลงานของหนุ่มคนนี้ตลอด 20 ปีประกอบเพลง Falling ของตัวเขาเอง เจ้าตัวดูโปรเจ็กต์ที่แฟนๆ ทำให้จนจบแล้วหันมาเจอแฟนๆ ชูแบนเนอร์ 우리에게와줘석 고마워요 (ขอบคุณนะที่มาหาพวกเรา) ทำเอารู้สึกซาบซึ้งประทับใจสุดๆ "ไม่รู้เลยจริงๆ ขอบคุณมากเลยนะครับ ทำไมทำให้ผมร้องไห้เนี่ย (เสียงสั่น) อยากจะขอบคุณมากๆ เลย รู้สึกว่าผมเป็นฝ่ายได้อย่างเดียวจริงๆ ก็รู้สึกเกรงใจและก็รู้สึกขอโทษ ขอบคุณมากๆ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลย ผมก็จะเป็นนักแสดงที่ดีมากยิ่งขึ้นของทุกคนนะครับ "รักนะ" (ภาษาไทย) เราอยู่ด้วยกันไปนานๆ นะครับ" จากนั้นก็ถ่ายรูปกับแฟนๆ ก่อนกล่าวต่อว่า "อยากขอบคุณทุกคนอีกครั้งนึงที่มาในงานวันนี้ แม้ว่าช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันอาจจะสั้นและผ่านไปเร็วมาก แต่เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุขจริงๆ นะครับ รู้สึกเสียดายมากๆ ที่ต้องลากันแล้ว แต่ยังไงผมก็จะกลับมาอีกนะครับ อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพด้วยนะครับ อีกไม่กี่วันทุกคนจะได้ดูเรื่อง A Very Luck Day หวังว่าเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนหายคิดถึงผมได้นิดนึงนะครับ ขอบคุณครับ เจอกันอีกนะครับ I Love You ผมรักคุณ ซารังเฮโย อันยอง อันยองงงง Thank you"
หวังว่าการกลับมาครั้งต่อไปของ 'ยู ยอนซอก' จะไม่ต้องรอกันนานถึง 5 ปีเหมือนครั้งนี้นะ!!! ส่วน VVe Entertainment จะมีผลงานอะไรให้เราติดตามกันอีกนั้น อย่าลืมไปอัพเดตผ่านช่องทางบัญชีอย่างเป็นทางการ ทั้ง
ทวิตเตอร์ (X) : @VVe_Ent
https://twitter.com/VVe_Ent?t=q5uAY53cpFHwIQQfEFYwZA&s=09
เฟซบุ๊ค: www.facebook.com/vveentertain
อินสตาแกรม: vve_ent
https://instagram.com/vve_ent?igshid
#유연석 #ยูยอนซอก
#FALLINGFORYOO
#YOOYEONSEOKinBKK
#VVeEnt