'ฮวัง มินฮยอน' สาดความสุขและความอบอุ่นสะกดทุกหัวใจ 'ฮวังโด' ใน 2023 HWANG MIN HYUN MINI CONCERT <UNVEIL> IN BANGKOK พร้อมสัญญา "เจอกันอีกซัมเมอร์หน้า"

Last updated: 9 ก.ย. 2566  | 

'ฮวัง มินฮยอน' สาดความสุขและความอบอุ่นสะกดทุกหัวใจ 'ฮวังโด' ใน 2023 HWANG MIN HYUN MINI CONCERT <UNVEIL> IN BANGKOK พร้อมสัญญา "เจอกันอีกซัมเมอร์หน้า"

         เล่นเอาใจละลายตกอยู่ในภวังค์กันเมื่อนักร้องหนุ่มผู้เพียบพร้อมด้วยรูปลักษณ์แถมภาพลักษณ์สุดละมุน 'ฮวัง มินฮยอน' ร่ายมนต์สะกดหัวใจ ฮวังโด (Hwangdo : ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับของ ฮวังมินฮยอน) จนแทบลืมหายใจกันตลอดงาน “2023 ฮวัง มินฮยอน โซโล่ มินิ-คอนเสิร์ต <อันเวล> อิน แบงคอก” (2023 HWANG MIN HYUN MINI CONCERT IN BANGKOK) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 เวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา ณ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก โดยผู้จัดใจดีทั้งสาม ได้แก่ บริษัทดับบลิวพี 24 กรุ๊ป จำกัด (WP24 Group Co.,Ltd.), บริษัท อะชิ แอคทิเวชั่น และ บริษัท ชาณ แอคทิเวชั่น จำกัด (CHAN ACTIVATION CO., LTD.) และ บริษัท พีซีซีดับเบิลยูโอทีที (ประเทศไทย) จำกัด (PCCW OTT THAILAND) หรือ Viu Thailand

         เสียงกรี๊ดของเหล่าฮวังโดจากทุกที่มารวมตัวกันแน่นขนัดอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ดังสั่นหวั่นไหว ทันทีที่ VCR เปิดตัวฉายขึ้นบนเวที ก่อนที่เพลงไตเติ้ล Hidden Side จะนำพาทุกคนพบกับ 'ฮวัง มินฮยอน' ที่มาในชุดสุดเท่พร้อมทีมแดนเซอร์ ก่อนสาดคาริสม่าไม่ยั้งตั้งแต่เวทีแรก จากนั้นดีเจเจมิกซ์-เจริญ แซ่จู พิธีกรก็ออกมากล่าวเปิดงาน “2023 ฮวัง มินฮยอน โซโล่ มินิ-คอนเสิร์ต <อันเวล> อิน แบงคอก” อย่างเป็นทางการ และปล่อยคิวให้ 'มินฮยอน' โชว์พลังเสียงใส่เต็มทุกอารมณ์เข้าถึงทุกความรู้สึกในเพลง Honest ต่อเป็นเพลงที่สอง พอหลุดจากภวังค์มาได้ เหล่าฮวังโดก็โดนมินฮยอนบอกคำรักแสนหวานแบบใกล้ชิดติดข้างหูกับเพลง Earphone จากนั้นเจ้าของงานก็ได้ทักทายเหล่าแฟนๆ อย่างเป็นทางการ “สวัสดีครับ ผม ฮวังมินฮยอน ครับ คิดถึงมากๆ นะครับ (ภาษาไทย) ยินดีต้อนรับเข้าสู่งาน UNVEIL IN BANGKOK นะครับ” แล้วจึงเข้าสู่ช่วงพูดคุยกัน

         งานนี้ล่ามคนเก่ง ยู คอนยอง รับหน้าที่คอยสื่อสารให้เช่นเคย คำถามแรกเกี่ยวกับเพลง Hidden Side ที่ดูไม่เหมือนเดิม ซึ่งมินฮยอน อธิบายว่า “ผมเปิดตัวด้วยเพลง Hidden Side ซึ่งเป็นเพลงไตเติ้ลในมินิอัลบั้มแรกของผม และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นความแตกต่าง จึงมีการเรียบเรียงใหม่โดยใส่เครื่องสายลงไปครับ เป็นไงบ้างครับ ยังโอเคอยู่ใช่มั้ยครับ” เจ้าตัวกล่าวขอบคุณเมื่อฮวังโดทุกคนบอกว่าชอบ นอกจากนี้ยังเผยความรู้สึกของการได้มาโซโล่คอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ “ไม่ได้มากรุงเทพฯ หลายปีมากเลยครับ นี่เป็นคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นครั้งแรกหลังการเกิดขึ้นมาของ ฮวังโด ด้วย ก็มาด้วยความตื่นเต้น ดีใจมากๆ ที่ได้มาพบกับทุกคนวันนี้ครับ” เห็นมินฮยอนทำงานหนักขนาดนี้ จะเหนื่อยขนาดไหน เจ้าตัวบอกว่า “ที่ผ่านมาผมตั้งใจถ่ายทำละครเรื่อง My Lovely Liar ซึ่งได้ถ่ายทำเสร็จไปแล้วเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคม และได้เริ่มถ่ายทำเรื่องใหม่แล้ว ถึงแม้จะยุ่งขนาดไหนก็ต้องหาเวลาเตรียมตัวเพื่อให้เหล่าฮวังโดได้มีความสุข ได้เห็นฮวังโดมีความสุขแบบนี้ ผมก็มีความสุขเช่นเดียวกันครับ” แต่อยากรู้จังว่าที่มาของชื่อคอนเสิร์ตคืออะไร? มินฮยอน เผยว่า “UNVEIL คือการเปิดเผยหรือโชว์สิ่งใหม่ๆ เพื่อความสดใหม่ ผมเองก็ได้เตรียมเวทีใหม่ๆ มาให้ทุกคนเพียบเลย หวังว่าจะสนุกกันเต็มที่นะครับ” มาครั้งนี้ไม่ได้มามือเปล่า มินฮยอนได้เตรียมของขวัญมามอบให้กับทุกคนด้วย “ผมเตรียมของขวัญเป็นพัดเล็กๆ มาให้ทุกคนครับ ตัวผมเองเป็นคนขี้ร้อนก็เลยมีพัดติดตัวอยู่เสมอ กรุงเทพฯ เป็นเมืองร้อนด้วย เลยเตรียมพัดมาเพื่อฮวังโดจะได้คลายร้อน แล้วก็อยากให้ถือพัดนี้บ่อยๆ นะครับ” จะได้มีมินฮยอนอยู่ข้างกายทุกวันว่างั้น

         เข้าสู่ช่วง TIMING GAME ที่มินฮยอนสารภาพว่าเล่นเกมทีไรแพ้ทุกที โดยเกมนี้จะมีบทลงโทษสำหรับคนเล่นแพ้ (ซึ่งก็มีคนเดียวคือมินฮยอน 555) เกมนี้จะมี 3 หมวดด้วยกัน โดยจะมีเกมทั้งหมด 4 ข้อ ถ้าทำได้ 3 ข้อขึ้นไปจะชนะ ทำได้ 2 ข้อแพ้เลย แต่ถ้าได้ไม่ถึงจะมีบทลงโทษสำหรับผู้แพ้ เริ่มที่หมวดการเต้น กติกาคือให้ดูส่วนนึงของเอ็มวีที่ตัวเองเต้นแล้วให้บอกว่าที่เห็นเป็นเพลงอะไรซึ่งเจ้าตัวทายผิด หมวดที่ 2 ร้องต่อเพลงที่เปิดแบบเนียนๆ เหมือนร้องจากซีดี ห้ามหยุดหรือดีเลย์ไม่งั้นแพ้เลย มินฮยอนขิงว่าหมวดเพลงตัวเองตอบถูกมาโดยตลอด ที่กรุงเทพฯ นี้ก็จะทำให้ถูกต้องให้ได้ ซึ่งเจ้าตัวก็ร้องต่อได้เกือบเนียน เหล่าฮวังโดโหวตให้ผ่าน ส่วนเพลงที่ 2 เจ้าตัวก็ร้องต่อได้เช่นกัน ถือว่าผ่านไปแบบสบายๆ 2 เพลง แต่หมวดที่ถูกใจกันมากก็เป็นหมวดแอ็คติ้งซึ่งเกมต่อบทละคร โดยจะมีฉากจากละครฮิตเรื่อง Alchemy of Souls มาให้ดู 1 ฉาก ดูไปเรื่อยๆ แล้วจะหยุดจากนั้นก็ให้มินฮยอนต่อบทละครว่าตัวละครในเรื่องพูดว่าอะไร ซึ่งมินฮยอนบอกว่าช่วงนี้แหละยากที่สุด และฉากที่ว่าก็เป็นตอนเข้าซีนกับจางอุค หรือพระเอกหนุ่มอี แจอุก ซึ่งตอนที่หยุดภาพเจ้าตัวตอบถึงประโยคที่ตัวเองพูดในบทว่า "เพื่อน! มากอดฉันที" ก่อนจะเปลี่ยนเป็น "เข้ามาฉันจะกอดให้" ซึ่งตัวมินฮยอนเองก็บอกว่าทราบอยู่ว่าตอบไม่ถูกหรอก! ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นเพราะคำตอบที่ถูกต้องคือ "ข้ายอมให้เจ้ากอดนะ" เลยโดนเอ็มซีแซวไปหนึ่งดอกว่าถูกคำว่า 'กอด' คำเดียวเลย 5555 ฮวังโดบอกว่าให้ผ่านเพราะคำพูดใกล้เคียงแต่เจ้าตัวบอกว่า ถ้าให้ผ่านมันก็ยังไงๆ อยู่ ขอไม่ผ่านดีกว่า

         ผลออกมาว่าผ่านแค่ 2 จาก 4 หมวดจึงถือว่าแพ้ แต่ฮวังโดจะยอมให้ชนะ แต่พอรู้ว่าบทลงโทษเป็นอะไรน่าสนุกกว่า จึงปรับให้แพ้ เราจึงได้เห็นมินฮยอนเต้นตามเพลงแล้วใส่ที่คาดผมสัตว์โลกที่ชนะการโหวตจากแฟนๆ ซึ่งที่คาดผมกระต่ายหูยาวชนะ มินฮยอน เลยต้องสวมพร้อมเต้นสุดคิ้วท์ในเพลง Betcha ของ แบคฮยอน (EXO) เรียกเสียงกรี๊ดได้ถล่มทลาย แฟนๆ บอกว่าเพลงเดียวไม่จุใจ เจ้าตัวเลยจัดให้ด้วยที่คาดผมหูกระต่ายกับเพลง Super Shy ของ NewJeans ที่คนโดนลงโทษดูจะแฮปปี้เหมือนกัน

         มาถึงเวทีสุดเซอร์ไพรส์กับเพลงฮิตติดหูคนไทยอย่าง Melt (โต๊ะริม) ของนนท์-ธนนท์ ที่มินฮยอนตั้งใจฝึกซ้อมมากๆ จนร้องได้สำเนียงไทยชัดเว่อร์ เป็น โต๊ะริม เวอร์ชั่นคนเกาหลีคัฟเวอร์ที่เพราะเกินบรรยาย เจ้าตัวบอกว่าได้ยินมาว่าเพลงนี้ฮิตมากๆ เลยในเมืองไทย แต่ก็แอบห่วงว่าสำเนียงไทยของตัวเองจะโอเคมั้ย งานนี้ฮวังโดการันตีกันสนั่นฮอลล์ว่าได้อยู่จ้า ซึ่งพอเห็นว่าฮวังโดชอบเจ้าตัวก็รู้สึกว่าคุ้มกับที่ได้ตั้งใจเตรียมมา จากเพลงโต๊ะริม มินฮยอน ก็ชวนไปฟังเพลงรักสุดซึ้งอย่าง Tree ที่พาทุกคนเข้าสู่โลกของ ซอยุล ในเรื่อง Alchemy of Souls สลับจากการฟังเพลงมาชม VCR ที่ มินฮยอน ได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งในอดีต ปัจจุบัน และสิ่งที่อยากทำในอนาคต รวมถึงความรู้สึกที่มีต่อฮวังโดทุกคน และแล้วหนุ่มหล่อละมุนก็ขอเผยความเซ็กซี่ที่ซ่อนอยู่ในตัวตนอีกด้านหนึ่งกับเพลงที่ทุกคนรอคอย Perfect Type ซึ่งทั้งเสื้อผ้าหน้าผมและเพอร์ฟอร์มบนเวทีมีความเซ็กซี่ในทุกองศา สมกับเป็นเพลงที่บ่งบอกความเป็น ฮวังมินฮยอน ได้ดีที่สุด ก่อนต่อด้วยเพลง CUBE ที่เพิ่มดีกรีความเซ็กซี่ขึ้นอีกระดับ

         จากนั้นพักพูดคุยเรื่องการซ้อมร้องเพลงไทยและซีรีส์เรื่อง My Lovely Liar ที่กำลังฉายอยู่ในเมืองไทย “ผมรู้สึกสำเนียงไทยยากอยู่ครับ แต่โชคดีตอนซ้อมมีผู้ช่ำชองภาษาไทยมาช่วยไกด์ด้วย บวกกับเป็นเพลงที่ติดหูมาก เลยสนุกมากๆ ครับ” เจ้าตัวยังพูดถึงโชว์ในเพลง Perfect Type ที่เพิ่งแสดงไปว่า "พอจะทราบว่าทุกคนรอคอยเวทีนี้เพราะในงานแถลงข่าวผมได้บอกไปว่าเพลงนี้แสดงถึงความเป็นมินฮยอนมากที่สุดด้วย ไม่ได้เห็นมินฮยอนบนเวทีนานขนาดไหน ผมเองก็ตั้งใจเตรียมเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่จะแสดงให้ฮวังโดได้เห็นการเต้นของผมกันมากขนาดนั้น" ส่วนเรื่องซีรีส์ที่กำลังฮอตฮิตอยู่ตอนนี้นั้น มินฮยอนสปอยล์ให้นิดนึงว่า “ตอนที่ 11 จะเป็นการคลี่คลายปมของตัวละคร โดฮา อยากให้จับตาดูกันให้ดีนะครับ” ก่อนที่หนุ่มเสียงนุ่ม 'มินฮยอน' จะรับบทเป็น 'ดีเจฮวัง' จัดรายการวิทยุ เพื่อเข้าสู่ช่วง ‘On Air’ ที่จะมาในธีม 'วัยรุ่น' โดยสมมติว่ามีผู้ชมทางบ้านส่งจดหมายมาขอคำปรึกษา ในที่นี้จะเป็นการให้คำปรึกษากับน้องนักเรียน ม.5 คนนึงที่รักความสมบูรณ์แบบแต่มีปัญหาหนักอกที่คิดไม่ตก ซึ่งดีเจฮวังก็เลือกเพลงมาร้องสดๆ ปลอบใจ 4 เพลงรวดด้วยเสียงหวานๆ ของดีเจเริ่มจาก Consolation (ost. Be Melodramatic) ของ ควอน จินอา เพลงที่คอยปลอบโยนหัวใจในช่วงวัยรุ่น ตามติดด้วยเพลง Beautiful (ost. Goblin) ของ Crush ที่ฟังแล้วเคลิ้มกันทั้งอินดอร์ ตัวบ่งชี้ว่าวัยรุ่นคือช่วงเวลาที่สวยงามเพียงใด และเพลงโปรดของมินฮยอน อย่าง Twenty-five,Twenty-one ของวง JAURIM (ชาอูริม) ที่สะท้อนช่วงวัย 20 ต้นๆ ได้ดีและอยากร้องให้ฮวังโดฟังมากๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง Amusement Park ของ 'แบคฮยอน' ที่มินฮยอนชอบมากและดีใจที่ได้ร้องสดๆ ให้ฮวังโดฟัง

         แล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายที่มินฮยอน มาในชุดสบายๆ ดูน่ารัก “ในที่สุดก็มาถึงช่วงนี้จนได้ นี่จะเป็นเพลงสุดท้ายเพื่อฮวังโด ผู้เป็นเหมือนจักรวาลของผมครับ” แล้วเพลง Universe ก็พาฮวังโดทุกคนเข้าสู่ห้วงจักรวาลของมินฮยอน สลับกลับมาชม ENDING VCR ที่เผยภาพบรรยากาศการทำงานหนักของ มินฮยอน ผู้ซึ่งมุ่งมั่นสร้างผลงานเพื่อตอบแทนทุกๆ ความรักที่ได้รับจากฮวังโด ก่อนที่ มินฮยอน จะมาในเพลง Crossword ที่แสนจะสดใส โดยที่เจ้าตัวกล่าวในช่วงท้ายนี้ว่า “Universe เป็นเพลงที่ผมชอบมาก ครั้งนี้เปลี่ยนไปนิดนึงใส่ทำนองเปียโนเข้าไปด้วย เป็นยังไงบ้างครับ เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่ผมชอบและมีความหมายกับผมมากๆ เลย โดยเฉพาะในปีนี้ผมก็ได้พบกับฮวังโดทั่วเอเชียและได้ใช้ช่วงเวลานี้ร่วมกับฮวังโดมันก็เลยยิ่งพิเศษกับผมมากๆ หวังว่าฮวังโดจะเก็บช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้ไว้เป็นความทรงจำนะครับ รวมทั้งตัวผมด้วยที่จะขอเก็บไว้เป็นรูปถ่ายในเมืองไทย” จากนั้นมินฮยอนก็ขอถ่ายรูปร่วมกับฮวังโดเป็นที่ระลึก แต่โดนเซอร์ไพรส์ด้วยโปรเจ็กท์น่ารักๆ ก่อนจะหันมาเจอแผ่นป้ายสโลแกนนับพันที่เขียนว่า “황도의 세상을 완벽하고 사랑만 가득하게 만들어줘서 고마워요” (ขอบคุณที่ทำให้โลกของฮวังโดสมบูรณ์แบบและเต็มไปด้วยความรัก) เจ้าตัวอ่านแบนเนอร์โปรเจ็กต์ก่อนบอกว่า "สโลแกนก็ดี โปรเจ็กต์ก็สวยงาม ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ขอโทษนะครับ ผมมาเมืองไทยช้าไปหรือเปล่า ไม่เป็นไรนะครับ" “ขอบคุณที่มอบความรักและการสนับสนุนที่อบอุ่นให้ผมขนาดนี้นะครับ ขอบคุณครับ" ก่อนจะขอถ่ายรูปอีกครั้งกับสโลแกนและบอกลา "ฮวังโดที่เมืองไทยทำให้ผมสนุกสนานและสามารถกลับไปทำงานด้วยความสนุกสนานและมีกำลังมากขึ้น ผมจะกลับไปทำงานให้หลากหลายจะได้กลับมาเจอฮวังโดที่เมืองไทยอีกนะครับ อย่าเจ็บ อย่าป่วยกันนะครับ ผมขอให้สัญญาว่าจะกลับมาเจอกันอีกในหน้าร้อนนะครับ”

         และแล้วเพลงสุดท้าย Smile ก็ดังขึ้น เพลงจังหวะสดใสน่ารักๆ ที่ถูกเลือกมาเป็นเพลงบอกลา แต่กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขของทุกคน “ไว้เจอกันอีกนะครับ รักนะครับ!” มินฮยอน กล่าวเป็นภาษาไทยพร้อมโบกมือลา ก่อนหน้าจอบนเวทีจะขึ้นตัวอักษรลายมือ ฮวังมินฮยอน ที่เขียนว่า “Love Hwangdo” เป็นการจากลาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม อิ่มเอมความสุขกันถ้วนหน้า

#황민현 #HWANGMINHYUN #UNVEIL_IN_BKK #PLEDISENTERTAINMENT #CHANACTIVATION #WP24Group #ACHIACTIVATION #THECONCERT

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้