ณ พื้นที่ที่เต็มไปด้วยความรัก! "อันฮโยซอบ" เผยได้ใกล้ชิดกว่าที่เคยกับ "พอลจัก" ชาวไทย ประทับใจ “here and now” อิน แบงคอก จนกลั้นน้ำตาไม่ไหว

Last updated: 29 ก.ค. 2566  | 

ณ พื้นที่ที่เต็มไปด้วยความรัก! "อันฮโยซอบ" เผยได้ใกล้ชิดกว่าที่เคยกับ "พอลจัก" ชาวไทย ประทับใจ “here and now” อิน แบงคอก จนกลั้นน้ำตาไม่ไหว

         นอกจากความหล่อระดับอินฟินิตี้ ยังทำเอาหัวใจพองฟูแบบไม่มีที่สิ้นสุดไปด้วยแล้ว! สำหรับการพบกันครั้งแรกระหว่าง “อันฮโยซอบ” (Ahn Hyo Seop) และเหล่า “พอลจัก”
ชาวไทย (อ่านออกเสียงว่า “พอลจั๊ก” / PAULJJACK, 폴짝 ชื่อแฟนคลับของอันฮโยซอบ) ในงานแฟนมีตติ้ง 2023 อันฮโยซอบ เอเชีย ทัวร์ <เดอะ เพรสเซนต์ โชว์ อิน แบงคอก> “เฮียร์ แอนด์ นาว” (2023 AHN HYO SEOP ASIA TOUR “here and now”) #AhnHyoSeopThePresentShowBKK เมื่อวันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ บีซีซี ฮอลล์ เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ชั้น 5 ซึ่งได้ผู้จัดโพรไฟล์ดี บริษัท เฟโอห์ จำกัด (Feoh Co.,Ltd.) แท็กทีมต้นสังกัดเกาหลี เดอะ เพรสเซนต์ คัมพะนี (The Present Company) ร่วมสร้างโมเมนต์แห่งความทรงจำครั้งนี้

         เมื่อผู้ชมทยอยเข้าสู่ฮอลล์เป็นที่เรียบร้อย ตัวเลขตรงหน้าบอกเวลาเคานต์ดาวน์ที่ทุกคนเฝ้ารอ จนกระทั่งนาทีที่ 04:17 (เดือนและวันเกิดของอันฮโยซอบ) ตัวเลขสำคัญที่ทำให้เรารู้ว่า ‘ที่นี่ตอนนี้’ มี “อันฮโยซอบ” เพลง I’m your man ส่งตรงเข้าหัวใจ เสียงนุ่มละมุนหูครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด เปิดฉากงานแฟนมีตติ้งด้วยบรรยากาศสบายๆโดยมี ดีเจนุ้ย-ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร รับไมค์ทำหน้าพิธีกร และ เจเบบี้ฟู้ด (ศิรส มหาวัฒนอังกูร) รับหน้าที่ล่ามของงาน ก่อนจะชวนพระเอกหนุ่มสุดหล่อกล่าวทักทายแฟนๆอย่างเป็นทางการ "สวัสดีครับ อันฮโยซอบครับ ดีใจมากเลยนะครับที่ได้มาจัดแฟนมีตติ้งที่กรุงเทพฯ ตอนนี้ทั้งตื่นเต้น มีความรู้สึกเต็มไปหมดเลยครับ วันนี้เรามาสนุกไปด้วยกันนะครับ" เสียงกรี๊ดต้อนรับดังสนั่นฮอลล์แทนความรักและความคิดถึงของทุกคนที่ต่างตั้งตารอคอยให้วันนี้มาถึง “มาเมืองไทยครั้งนี้รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลยครับ เพราะตลอด 3 ปีที่ผ่านมาผมอยู่แต่กองถ่ายละครตลอดเลย และผมเองก็อยากเจอแฟนๆ ทุกคนมาตลอดเช่นกัน
ตอนนี้เหมือนกำลังฝันอยู่เลยครับ ได้เจอแฟนๆ ชาวไทยครั้งแรกรู้สึกตกใจที่ทุกคนมากันเยอะมากๆ ทุกคนต้อนรับกันแบบน่ารักมากเลยครับ ตอนนี้ผมเอเนอร์จี้มาเต็มเลยครับ”

 

         แค่เริ่มต้นก็ส่งเอเนอร์จี้ให้กันและกันได้อย่างเต็มเปี่ยม หนุ่มฮโยซอบเผยอีกว่า ชื่องาน 'เฮียร์แอนด์นาว' ครั้งนี้เจ้าตัวเป็นคนตั้งขึ้นเองเลย "คำนี้เป็นเหมือนคติประจำตัวของผมด้วย ผม
เลยอยากให้ทุกคนมามีความสุขด้วยกันตอนนี้ เวลานี้ ที่นี่ครับ” แน่นอนว่าตอนนี้พวกเราทุกคนกำลังมีความสุขอยู่ เป็นช่วงเวลาพิเศษที่น่าจดจำมากๆ เจ้าตัวยังบอกด้วยว่า “ชื่อแฟนคลับ ‘พอลจัก’ ที่ผมตั้งขึ้นในงานแฟนมีตติ้งที่เกาหลีที่ผ่านมา มาจากคำว่า ‘พอล’ ที่เป็นชื่อภาษาอังกฤษของผม บวกกับคำว่า ‘จัก’ ที่มาจากคำว่า ‘จักกุง’ (짝꿍) ในภาษาเกาหลี แปลว่า คู่หู พาร์ทเนอร์ที่สนิทกัน ผมก็เลยเลือกตั้งชื่อแฟนๆ ว่า ‘พอลจัก’ ที่เมื่อแปลรวมแล้วคือ ผม ‘พอล’ เป็นคู่หูกับทุกคนไงครับ” ความหมายดีแบบนี้ไม่ว่าใครก็ต้องขอสมัครเป็นพอลจักกันแล้ว

         เปิดประเดิมช่วงแรก อันฮโยซอบ ชวนทุกคนมาทำความรู้จักและสนิทกันมากขึ้น กับช่วงเวลาของ ‘Happy Hour’ อัพเดตชีวิตและเจาะลึกถึงตัวตนของผู้ชายคนนี้กันแบบไม่มีกั๊ก เริ่มแรกเลยหนุ่มคนนี้เผยว่าตัวเองติดโทรศัพท์มือถือแบบชนิดที่ว่ามีติดมืออยู่ตลอด ดังนั้นจึงคัดเลือกคำถามจากแฟนๆ ที่ส่งมาทางข้อความเพื่อสอบถามกับเจ้าตัวให้ได้รู้กันไปเลย ไม่ว่าจะเป็น 'สิ่งที่อยากทำมากๆ ในวันว่างกับแฟนๆ' หนุ่มหล่อเผยว่าปกติวันว่างจะอยู่บ้านเล่นกับน้องเหมียวที่ชื่อว่า 'พาอุล' แล้วก็ชอบทำความสะอาดบ้านชอบล้างจานเพราะไม่ต้องคิดอะไรเลย งานนี้ทำเอาเหล่าพอลจักหลุดกรี๊ดออกมาแบบสุดจะห้ามใจเพราะตามหาคนล้างจานมานานแล้ว 555 นอกจากนี้ก็ยังชอบดูยูทูบ ว่าแล้วก็มีตารางกิจกรรมในหนึ่งวันของหนุ่มคนนี้มาให้ดูกัน เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนตอน 8 โมง, ให้อาหารพาอุล, เปิดเพลง, สั่งกาแฟ, ดูยูทูบ, กินข้าวเที่ยง, คิดว่าจะทำอะไรดี, ติดต่อหาเพื่อนสนิท (ซึ่งมีไม่มาก), ออกไปขับรถเล่น, ไปคาเฟ่เงียบๆ อ่านหนังสือ, ไปทานข้าวกับเพื่อนๆ ที่ทักไปหา, กลับบ้าน, ให้ขนมพาอุล, อาบน้ำ, ดื่มเบียร์ เรียกว่าเรียบง่ายแต่คุ้มค่ามากๆ เพราะทำหลายอย่างมากเลย ดังนั้นกลับไปที่คำถามเกี่ยวกับสิ่งที่อยากทำมากๆ ในวันว่างกับแฟนๆ เจ้าตัวบอกว่า เพราะเป็นคนชอบดูหนังมากๆ เพิ่งไปดูเรื่อง The Whale เป็นเรื่องราวของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกสาว ก็เลยอยากให้ทุกคนลองไปดูกัน ประทับใจมากๆ เมื่อเอ็มซีนุ้ยแหย่ว่าพร้อมจะเหมาโรงพาแฟนๆ ทุกคนไปดูได้มั้ย เจ้าตัวบอกว่าไม่มีปัญหา
ส่วนอีกคำถามเรื่องความรู้สึกที่ได้มาเมืองไทยและอาหารที่อยากกิน เจ้าตัวบอกว่าสงสัยมากๆ ว่าอาหารแต่ละประเทศเป็นยังไงบ้าง ก็เลยอยากไปไนท์มาร์เก็ต ปกติได้ทานอาหารไทยที่เกาหลี เมนูที่ดังๆ ก็ผัดไทยก็เลยอยากลองทานผัดไทยที่เมืองไทย และอยากลองดูว่าข้าวเหนียวมะม่วงเป็นยังไง เมื่อวานได้ทานแล้ว ทานข้าวเหนียวกับมะม่วงแยกกัน (อ้าว!) ยังมีคำถามที่ว่า Dr. Romantic จะมีซีซั่น 4 มั้ย ซึ่งเขาบอกว่าอยากให้มีซีซั่น 4 มากๆ แต่ตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ ต้องรอฟังท่านอื่นๆ หรือผู้จัดด้วย ส่วนบทซออูจินที่รับตั้งแต่ซีซั่น 2 จนถึง ซีซั่น 3 ใช้เวลาถึง 3 ปีในละครและในชีวิตจริงก็ผ่านไป 3 ปีเหมือนกัน ตอนถ่ายภาค 2 มีบางจุดในชีวิตที่รู้สึกว่าตัวเขามองโลกให้มันเป็นแง่บวกไม่ค่อยได้ พอมาถึงภาค 3 ตัวละครซออูจินก็พัฒนาตัวตนของเขา และตัวอันฮโยซอบเองก็พัฒนาตัวเองและรู้สึกว่าและจิตใจของเขาก็ได้เติมเต็มมากขึ้น นอกจากนี้แฟนๆ ยังขอให้เขาอัพไอจีบ่อยๆ เจ้าตัวบอกว่าเป็นการบ้านที่ค่อนข้างยากเพราะปกติไม่ค่อยได้ถ่ายเซลฟี่ แต่ที่ผ่านมาอยากให้แฟนๆ ได้เห็นรูปก็เลยพยายามถ่ายเซลฟี่ และวันนี้ก็มีรูปมาฝากแฟนๆ เป็นรูปที่เจ้าตัวบอกว่าค่อนข้างดิบนิดนึงอย่างรูปแรกที่ใส่เสื้อกล้ามสวมหมวกบักเก็ตเท่ๆ ซึ่งเป็นตอนดื่มเบียร์ที่บ้านแล้วออกไปเดินเล่นนอกบ้านกับเพื่อน หรือรูปที่เซลฟี่ที่ห้องซ้อมสำหรับงานแฟนมีตติ้งซึ่งที่คอจะเต็มไปด้วยเหงื่อ

         คำถามต่อไปแฟนๆ อยากให้ช่วยทำเสียงปลุกตอนเช้าให้หน่อย หนุ่มคนนี้บอกว่าตัวเองเป็นคนค่อนข้างตื่นง่าย แต่จะตั้งเวลาปลุกเผื่อ 7 ครั้ง ส่วนเสียงมอร์นิ่งคอลล์ ปลุกแฟนๆ ตอนเช้าเจ้าตัวพูดมาเป็นภาษาเกาหลีที่แปลได้ว่า "เมื่อคืนนอนหลับฝันดีมั้ยครับ วันนี้ก็ขอให้เป็นวันที่ดีนะครับ" ดีเจนุ้ยบอกว่าปลุกแบบนี้ฝันต่อเลย ไม่ตื่นแน่ 555 เลยนำเสนอมอร์นิ่งคอลล์สไตล์เอาฮาว่า "ตื่งๆ มีเรื่องแล้ว" ข้อต่อไป ถ้าขอพรจากจินนี่ในตะเกียงได้ 3 ข้อจะขออะไร อย่างแรกเจ้าอยากพูดภาษาไทยให้เก่งสุดๆ ไปเลย อย่างที่ 2 อยากวาร์ปได้จะได้ไม่ต้องนั่งเครื่องบินนานๆ ข้อ 3 อยากให้ทุกคนมีความสุข เรียกว่าใจดีและคิดถึงพอลจักตลอดเลย ช่วงแรกผ่านไปเจ้าตัวบอกว่าสนุกมากเลย ทุกคนรีแอ็คท์ดีมาก แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะถ่ายคลิปเยอะมาก อยากให้ดูตัวจริงของเขาและสนุกไปด้วยกันมากกว่า แค่ช่วงแรกก็ได้ทำความรู้จักหนุ่มคนนี้เพิ่มขึ้นมากมาย ได้เห็นตัวตนในมุมส่วนตัวน่ารักๆ กันอย่างจุใจ

         เวลาดำเนินต่อถึงช่วงที่สอง ‘Shooting Time’ พูดคุยถึงผลงานโดดเด่นของนักแสดงคนเก่ง ปรากฏว่าผลโหวตผลงานการแสดงของฮโยซอบที่แฟนๆ ชาวไทยชื่นชอบมากที่สุดและพาไปดูฉากดังของเรื่องนั้นๆ กัน อันดับหนึ่งได้แก่ ท่านประธานคังแทมู จาก Business Proposal เป็นซีรีส์ที่ขึ้นอันดับ 1 ในเน็ตฟลิกซ์หลายประเทศ ได้รับความนิยมถล่มทลาย ซึ่งเหตุผลที่แฟนๆ ชอบนั้นก็ต้องยอมรับว่ามาจากท่านประธานสุดหล่อเป็นปัจจัยหลัก และเรื่องนี้เป็นละครเบาสมอง ดูแล้วไม่เครียด ชอบคาแรกเตอร์ของตัวละครที่นิสัยดี เทคแคร์ดี แถมมีแบล็คการ์ดด้วย ว้าว! ข้อหลังดูจะถูกใจแฟนๆ สุดๆ ตัวเขาไม่คาดคิดว่าจะได้รับความรักมากมายขนาดนี้ เสน่ห์ของคังแทมูที่เจ้าตัวคิดก็คือ แม้ว่าแบล็คการ์ดจะสำคัญเหมือนกันแต่ที่ทุกคนชอบคังแทมูเพราะเขาเป็นคนพุ่งตรงมากๆ อีกด้านก็คือเป็นคนบริสุทธิ์มากๆ ส่วนความเหมือนกับคังแทมูคืออันฮโยซอบก็เป็นคนพุ่งตรงเหมือนกัน

         อันดับสองคุณหมอซออูจิน จาก Dr. Romantic 3 เหตุผลที่แฟนๆ ชอบก็คือ ชอบมิติของตัวละครที่อันฮโยซอบสื่อสารออกมาผ่านการแสดงทำให้เชื่อว่าตัวละครนั้นมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ บางคนรู้จักอันฮโยซอบครั้งแรกจากเรื่องนี้ ส่วนอีกเหตุผลคือ เป็นตัวละครที่เหมือนเราได้ดูเขาค่อยๆ โตขึ้นก็เลยมีความผูกพัน ส่วนตัวเขากับซออูจินเหมือนกันกี่เปอร์เซ็นต์นั้นเจ้าตัวบอกว่าตอนที่ถ่ายทำคิดว่าร้อยเปอร์เซ็นต์เลยรู้สึกอินมากๆ ตอนดูฉากดังในเรื่องที่เป็นซีนเคล้าน้ำตาแสนเศร้านั้นเจ้าตัวบอกว่าวันที่ถ่ายเป็นวันเกิดของเขา ก็เลยเป่าเค้กวันเกิดทั้งๆ ที่ตัวเต็มไปด้วยฝุ่น เป็นวันที่จะลืมไม่ลงเลย ชื่อเรื่อง Dr. Romantic คำว่าโรแมนติกสำหรับเขาก็คือการ 'รู้ตื่น' (หืม!) เอ็มซีถึงกับชมล่ามว่าแปลเก่ง แปลได้ยังไง? เจ้าตัวอธิบายว่าทุกคนที่ปรากฏในละครเรื่องนี้เป็นคนดีมากจริงๆ อย่างที่บอกไปว่าตอนที่ถ่ายซีซั่น 2 ของเรื่องนี้เขาไม่สามารถมองโลกให้เป็นแง่บวกได้ แต่การได้เจอเพื่อนๆ นักแสดง, ผู้กำกับ และรุ่นพี่ฮันซอกกยู ทำให้เขาอยากมีความหวังอีกครั้งเหมือนตัวอูจินเลย ก็เลยเป็นผลงานที่มีความหมายกับเขามากๆ เจ้าตัวถึงกับถามว่า ผมจริงจังไปมั้ยครับ 555

        และอันดับสาม ฮารัม จาก Lovers of the Red Sky เหตุผลที่ชอบเรื่องนี้แฟนๆ บอกว่าในเรื่องนี้แม้จะตาบอดแต่สามารถสื่อสารอารมณ์ได้ทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าท่าทางหรือน้ำเสียง ชอบในการพลิกบทบาท และเป็นผู้ชายเกาหลีที่ใส่ชุดย้อนยุคได้หล่อที่สุด บทนี้มีความหมายต่อเขาเพราะเป็นอะไรที่ท้าทายมากๆ ต้องทำอะไรหลายอย่างมากทั้งทางร่างกายและจิตใจ รู้สึกเหมือนต้องทำการบ้านที่ยากมากๆ สำเร็จ และเป็นผลงานที่จะไม่มีวันลืมเลย ความประทับใจระหว่างถ่ายทำ ตอนแต่งหน้าเป็นพญามารครั้งแรกใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงเลย เล่นเอาตกใจมากเลย อีกอย่างก็คือตัวละครฮารัมต้องตาบอด ตัวเขาเองมองเห็นแต่ต้องทำเป็นมองไม่เห็น เวลาใครเรียกฮารัมๆ ตัวเองก็จะหันเลย ส่วนบทบาทที่อยากเล่นก็หลากหลายตอนนี้อยากลองแบบเมโลดราม่าจ๋าๆ หรือไม่ก็แอ็คชั่นจ๋าๆ เลย อย่างไรก็ตาม อันฮโยซอบบอกว่าทุกบทบาทที่ได้รับมีความสำคัญต่อเขามาก ขอบคุณแฟนๆ ที่รักในตัวละครที่เขาถ่ายทอดออกมาเสมอ ส่วนต่อจากนี้ก็อยากให้ติดตามซีรีส์ทาง Netflix ที่ชื่อว่า A Time Called You ที่จะออกมาในเดือนกันยายนนี้

         หลังจากพูดคุยถึงผลงานการแสดงกันแล้ว มี VCR ที่เจ้าตัวเตรียมไว้ทำให้ได้เห็นอีกมุมของเขา คือ VCR ที่พวกเราจะได้ไปขับรถเล่นกับฮโยซอบที่ถนนโซวอล เป็นถนนเส้นที่เขาชอบไปเวลาที่อยากขับรถเล่นนั่นเอง ถ้าถึงแล้วจะจอดรถทิ้งไว้และเดินขึ้นไปบนนัมซานทาวเวอร์กัน ฮโยซอบเล่าว่าปกติพอนั่งเบาะคนขับเสร็จปุ๊บก็จะเริ่มเปิดเพลงก่อนเลย วันไหนฝนตกจะไม่ค่อยฟังเพลงที่สดใสเท่าไร แต่จะฟังเพลงสบายๆ เขาเล่าด้วยว่า การเตรียมแฟนมีตติ้งในครั้งนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนเตรียมตัวเป็นนักร้อง เหมือนจะได้เดบิวต์ ช่วงที่เตรียมงานนั้นสนุกมากๆ แต่ก็มีเหนื่อยด้วยเช่นกัน เขาชอบดนตรีตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ชอบเต้น ชอบร้องเพลง เลยทำให้ยังมีความรู้สึกค้างคากับจุดนั้นอยู่เยอะเหมือนกัน โอกาสครั้งนี้เหมือนเป็นจุดที่ทำให้เขาได้เริ่มต้นอีกครั้ง ทั้งมีความสุขและตื่นเต้นเลย ที่ผ่านมาเขาตั้งใจทำงาน และมองไปแต่ข้างหน้า แต่ตอนนี้ได้มีโอกาสทำในสิ่งที่รักไปด้วย ในส่วนของการเต้น ตอนที่เลือกท่าเต้นครั้งแรกดูง่ายมากแต่เอาเข้าจริงไม่ง่ายเลย และนั่นก็ยิ่งทำให้สนุก อาจจะเต้นผิดเต้นพลาดไปบ้างแต่สิ่งที่สำคัญกว่าการเต้นที่ถูกต้องเป๊ะคือพวกเราอยู่ด้วยกันในช่วงเวลานี้ “here and now” แถมใน VCR ยังมีเซอร์ไพรส์ที่ให้เราได้เห็นการเดินทางระหว่างมาไทยจนเครื่องบินแลนดิ้ง ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนชาวไทย แสงไฟยามค่ำคืนของกรุงเทพฯ ที่มีอันฮโยซอบดีแบบนี้นี่เอง

         ยังมีคำถามที่ว่าแฟนๆ มีความหมายอย่างไรกับอันฮโยซอบ “สำหรับผมแฟนๆ คือคนที่เป็นเหมือนต้นไม้ครับ ต้นไม้ให้อะไรเราโดยไม่หวังผลตอบแทน แฟนๆ เป็นคนสำคัญที่ให้พลังงานแสนอบอุ่นกับผมได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดผ่านรากต้นไม้ที่เรียกว่าความรักครับ เลยทำให้ผมอยากเก่งขึ้นอีก อยากตอบแทนพวกเขาครับ” แสนดีแบบนี้เชื่อเลยว่าแฟนๆ จะเป็นต้นไม้ที่มอบพลังบวกให้ฮโยซอบเสมอ เป็นต้นไม้ที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้งแน่นอน

         คลื่นความฮอตก่อตัว อันฮโยซอบ กลับออกมาด้วยลุคใหม่ ระเบิดความเท่อย่างมีพลังด้วยการเต้นเพลง Let Me (Tone Stith) และ Vibe (Taeyang) แล้วเผยว่า “เป็นสเตจที่เตรียมตัวมานานมากเพื่อแฟนๆ เลย ผมไม่ได้เต้นมา 7-8 ปี เลยแอบเสียดายนิดนึง แต่ดีใจที่ได้โชว์ออกมาให้ทุกคนได้ดูกันครับ” เสน่ห์ของผู้ชายคนนี้ช่างล้นเหลือจริงๆ

         ต่อกันที่ช่วงเวลาของ ‘PAULJJACK MISSION’ มี 4 ภารกิจมาให้พระเอกหนุ่มทำเพื่อแลกกับของขวัญที่จะมอบให้พอลจัก ผ่านกี่มิชชั่นก็จะได้รางวัลเท่านั้น มิชชั่นแรก ทำหน้าตารูปที่กำหนด เป็นการใช้ความสามารถในการแสดงของเขามาแสดงสีหน้าที่หลากหลายออกมาให้ได้ ซึ่งก็มี 4 รูปให้ทำตามให้เหมือนทั้งการทำหน้าแมวที่ทำสายตาเว้าวอนแบบน่ารักแบ๊วๆ, กระรอกทำท่าเท่ๆ, แฮมสเตอร์สีหน้าตกใจ และอิโมจิส่งจูบ ซึ่งแฟนๆ ให้ผ่านทั้ง 4 ท่าที่เจ้าตัวทำออกมาได้อย่างน่ารักและคูลๆ ตามโจทย์เป๊ะ เป็นอันว่ามิชชั่นแรกสำเร็จ ส่วนมิชชั่นสอง ร้องเพลงประกอบ Dr.Romantic 3 อย่าง Thank You for the Memories 1 ท่อน ซึ่งคุณหมอก็โชว์น้ำเสียงทุ้มๆ นุ่มๆ สไตล์อดีตเด็กฝึกที่เตรียมเดบิวต์เป็นนักร้องให้ฟังกันจนเคลิ้มไปทั้งฮอลล์ ผ่านไป 2 มิชชั่นเจ้าตัวบอกเหนื่อยแต่สนุก ส่วนมิชชั่น 3 ใส่พร็อพคูลๆ โพสท่าคูลๆ 3 ท่า ซึ่งจากบรรดาพร็อพหลายอย่างที่เตรียมมาเจ้าตัวเลือกใส่ที่คาดผมกระต่ายแค่อันเดียวดูน่ารักมุ้งมิ้งไปอีก จากนั้นก็โพสท่า 3 ช็อตให้พอลจักในฮอลล์ได้บันทึกภาพหรือคลิปเก็บไปเป็นความทรงจำกัน มาถึงมิชชั่น 4 'พูดบทดังให้ฟัง' กันสดๆ 2 เรื่อง คือ Business Proposal กับ Dr.Romantic ที่เรื่องหลังต้องพูดบทว่า "ไม่เอาอ่ะ โตอิงๆ" เบื้องหลังของฉากนี้หนุ่มฮโยซอบเล่าว่า ตอนพูดบทนี้เขา NG ไป 15 รอบ วันนี้ต้องพูดอีกครั้งและมิชชั่นนี้ก็สำเร็จ ปรากฏว่าเจ้าตัวทำไป 4 ผ่าน ต้องให้รางวัลแฟนๆ 4 คนด้วยการจับสลากบนเวทีและได้มอบโฟโต้บุ๊คพร้อมลายเซ็นแถมความใกล้ชิดที่หลายคนอิจฉา อีกทั้งยังได้ถ่ายรูปโพลารอยด์คู่กับพ่อหนุ่มบนเวทีอีกด้วย

         “เป็นช่วงเวลาที่เหมือนความฝันเลยครับ นี่พูดจากใจเลย แล้วก็พูดจากใจอีกเหมือนกันเลยครับว่าสนุกมากๆ ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ต้อนรับผมขนาดนี้นะครับ ผมรู้สึกเลยว่าต้องมาอีกให้ได้ ขอบคุณมากๆ จริงๆ ครับ" ถึงช่วงท้ายๆ ของงาน อันฮโยซอบถามพอลจักในฮอลล์ว่าสนุกมั้ย? "จริงๆ ผมไม่เคยคิดว่าเลยจะมาเจอแฟนชาวไทยผ่านงานแฟนมีตติ้งแบบนี้ มีความสุขมากๆ ที่ได้มาเจอกัน ที่จริงแล้วผมตื่นเต้นมากๆ ก่อนออกมา แต่แฟนๆ ทุกคนส่งเอเนอร์จี้มาให้เยอะมากๆ เลย ผมก็เลยหายตื่นเต้นและสนุกมากๆ เลย เป้าหมายของงานแฟนมีตติ้งคือการทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น ทุกคนเหมือนได้รู้จักผมมากขึ้นมั้ยครับ หวังว่าในอนาคตเราจะได้เจอกันอีกบ่อยๆ นะครับ ผมจะรอวันที่เราได้เจอกันอีกนะครับ และผมก็ลาไปก่อนตรงนี้นะครับ ขอบคุณครับ” ก่อนจะส่งท้ายด้วยเพลง Still with you เติมเต็มบรรยากาศความรักได้อย่างสมบูรณ์แบบ

        ไม่ปล่อยให้จบง่ายๆ เพิ่มความใกล้ชิดให้มากกว่าที่เคย ช่วงอังกอร์ ฮโยซอบ เดินลงมาหาแฟนๆ รอบฮอลล์แบบที่ไม่ทันตั้งตัว ได้เห็นความหล่อกันแบบระยะประชิดจนอยากให้เวลาหยุดเดินซะเลย “ผมอยากเห็นทุกคน ทีละคนๆ เลยค่อยๆ เดินไปหารอบๆ ครับ วันนี้สนุกมากๆ เลย และจะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป เพราะฉะนั้นเรามาถ่ายรูปกันหน่อยได้ไหมครับ” แล้วเซอร์ไพรส์ VCR โปรเจ็กต์จากแฟนๆ ก็มา ข้อความที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกทำให้เขารับรู้ว่าแฟนไทยพร้อมมอบกำลังใจและความรักให้ฮโยซอบเสมอ พร้อมชูป้าย “우리 별 안효섭" ที่แปลว่า "ดวงดาวของพวกเรา อันฮโยซอบ” พร้อมทะเลดาวของแฟนๆ ทำเอาเจ้าตัวกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และไม่เขินที่จะปล่อยความรู้สึกของตัวเองออกมาต่อหน้าคนที่เขารักและรักเขามากๆ "ผมก็เคยสงสัยมาตลอดว่าทำไมคนอื่นเขาร้องไห้บนเวทีกัน รู้สึกราวกับว่าในพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความรักและมันทำให้ผมตื้นตันมากๆ ขอบคุณทุกคนจากใจจริงเลยนะครับ" "เมื่อกี๊เราตกลงกันว่าจะถ่ายรูปใช่มั้ยครับ" ก่อนที่จะถ่ายรูปร่วมกับแฟนๆ แล้วบอกว่านี่จะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายแล้วจริงๆ ก็เลยอยากจะร้องเพลงพร้อมเล่นเปียโนให้สมกับเป็นอังกอร์เพราะได้ยินมาว่าแฟนๆ ชอบเวลาเขาร้องเพลงหรือเล่นเปียโนมากๆ โน้ตเพลงที่ใช้วันนี้ก็เป็นโน้ตเพลงที่ใช้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ว่าแล้วก็จัดเพลงมาอีกชุดทั้ง River flows in you, Let It Be, Nothing's Gonna Change My Love for You ไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนแปลงรักที่ผมมีต่อคุณได้ และเพลง Thanks ของ คิมดงรยอล เป็นเพลงสุดท้าย แล้วไปลากันของจริงกับกิจกรรม HI-BYE ที่มีพระเอกของงานออกมายืนส่งทุกคนกลับบ้านด้วยตัวเอง ร่ำลากันแบบตัวต่อตัวไปเลย

         ผลงานครั้งต่อไปของผู้จัดทรงคุณภาพ บริษัท เฟโอห์ จำกัด จะพาศิลปิน-นักแสดงเกาหลีรายไหนมาพบกันแฟนๆ ชาวไทยอีก ติดตามได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Feoh Thai https://www.facebook.com/FeohTH ทวิตเตอร์ @FeohThai https://twitter.com/FeohThai และอินสตาแกรม FeohThai (@feoh.thai) https://www.instagram.com/feoh.thai

#AhnHyoSeopThePresentShowBKK
#AhnHyoSeopFanmeeting #AhnhyoseopAsiatour #AhnHyoSeop #안효섭 #อันฮโยซอบ #FeohThai

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้