ราวอยู่สรวงสวรรค์! "คิม มินกยู" จัดแฟนเซอร์วิสแบบจุกๆ มาทุกรสชาติ สนุก, ฟิน, ซาบซึ้ง ใน “Heavenly Moment” Kim Mingue Fanmeet in Bangkok

Last updated: 6 พ.ค. 2566  | 

ราวอยู่สรวงสวรรค์! "คิม มินกยู" จัดแฟนเซอร์วิสแบบจุกๆ มาทุกรสชาติ สนุก, ฟิน, ซาบซึ้ง ใน “Heavenly Moment” Kim Mingue Fanmeet in Bangkok

         พูดคำว่า “เยี่ยมจริงๆ” แค่ 3 ครั้ง ก็คงไม่พอ สำหรับความสนุกสุดฟิน ในเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ที่แฟนๆ ได้รับจากนักแสดงหนุ่ม “คิม มินกยู” (Kim MinGue) เจ้าชายลักยิ้มแห่งประเทศเกาหลี ในงานแฟนมีตติ้งครั้งที่สองของเขาในประเทศไทย “Heavenly Moment” Kim Mingue Fanmeet in Bangkok ที่จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ณ หอประชุมใหญ่ ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยผู้จัดน้องใหม่ MGCONNEXT

         หนุ่ม “คิม มินกยู” กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง ในรอบ 1 ปี เรียกว่าเก็บความคิดถึงเพื่อมารอเจอแฟนๆ ของเขาในวันนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อได้พบสบตากับแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้ง หนุ่มมินกยู จึงเลือกเพลง Love, Maybe จากซีรีส์ Business Proposal เพลงโปรดของเหล่าแฟนๆ มาเปิดต่อมความคิดถึงกันก่อนจะทักทายแฟนๆ เป็นภาษาไทย ว่า “สวัสดีครับ คิดถึงมากๆ ครับ” จากนั้นพิธีกรของงานอย่างดีเจนุ้ย-ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร ก็ขึ้นมาทักทายและเริ่มงานอย่างเป็นทางการก่อน โดยที่หนุ่มมินกยูเปิดใจต่อว่ามาไทยครั้งนี้ตื่นเต้นมากๆ จนมือสั่นเลย มีความสุขมากๆ ด้วยและอยากขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่ให้ความรักอย่างสม่ำเสมอ คอยอยู่เคียงข้างกันแบบนี้เลยทำให้มีโอกาสกลับมาแฟนมีตติ้งที่ประเทศอีกครั้ง และวันนี้อยากให้แฟนๆ ที่รักรู้สึกสนุกมากๆ สมชื่องาน “Heavenly Moment” ก็เลยเตรียมเกมมาร่วมสนุกเพียบเลย

         ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยกับช่วงแรก Kim Min Gue's Daily Moment ไปดูกิจวัตรประจำวันของคิม มินกยู ผ่านรูปถ่าย โดยเจ้าตัวได้เก็บภาพช่วงเวลาในชีวิตประจำวันของเขา มาแชร์กับแฟนๆ ภาพเซ็ตแรกมี 5 รูป รูปแรกและรูปที่ 2 เป็นฝีมือการถ่ายของเจ้าตัวที่ลอตเต้เวิลด์ ซึ่งตอนแรกที่ยังไม่เฉลยนั้น มินกยูให้แฟนๆ ทายว่าเขาถ่ายที่ไหน ซึ่งแฟนๆ ตอบถูก ทำเอาหนุ่มหล่อปลื้มจัดถึงกับบอกว่ารู้สึกถึงความรักของแฟนๆ ที่มีให้เขาเลย เอ็มซีเลยสอนให้ชมแฟนๆ เป็นภาษาไทยว่า "เยี่ยมจริงๆ" (3 ครั้ง) ซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามอย่างว่าง่าย จากนั้นจึงบรรยายถึงรูปในสวนสนุกลอตเต้เวิลด์ที่ดูมืดเป็นพิเศษว่ามันค่อนข้างแปลกใหม่และแตกต่าง ตอนที่ไปนั้นไปถ่ายงานก็จะไปตอนที่สวนสนุกปิดแล้วเลยมืดมากเลย บรรยากาศเลยตรงกันข้ามกับตอนเปิด ไม่มีคน ไม่มีแสงสีเสียง เป็นอีกมุมมองนึงเลยทีเดียว ส่วนรูปที่ 3 เป็นภาพทะเลยามพระอาทิตย์ตก ถ่ายเพราะรู้สึกว่าสวย เลยทำให้รู้สึกถึงความอิสระด้วย รูปที่ 4 ออกโทนมืดกว่า 3 ภาพแรก เจ้าตัวทดสอบความเป็นแฟนพันธุ์แท้แฟนๆ ว่ารู้มั้ยว่าถ่ายที่ไหน มีน้องแฟนคลับตอบว่าเป็นร้านกาแฟที่เขาทำพาร์ทไทม์ ทำเอาหนุ่มมินกยูถึงกับอึ้งและออกปากชม "เยี่ยมจริงๆ" (3 ครั้ง) ก่อนบอกว่าเขาจำได้ว่าเป็นแฟนคลับที่เคยมาให้กำลังใจเขาที่เกาหลีและไปให้กำลังใจที่ฟิลิปปินส์ด้วย ทำเอาเอ็มซีอึ้งว่าความจำดีมาก ใส่ใจแฟนคลับสุดๆ ก่อนเฉลยต่อว่า ภาพนี้เป็นสถานที่จากละครเรื่อง 이번 생은 처음이라 (Because This Is My First Life) นั่นเอง มาถึงรูปที่ 5 ที่มืดหนักเข้าไปอีก เอ็มซีอดแซวไม่ได้ว่ากล้องไม่มีแฟลชหรือไง เจ้าตัวบอกว่าภาพนี้เรื่องเดียวกันจากเรื่องที่แล้ว เขาชอบถ่ายรูปแนวนี้ เปรียบเทียบก็คือ ตอนนี้พวกเราทุกคนอยู่ในฮอลล์นี้ด้วยกัน แต่ถ้าวันใดวันนึงเขามีโอกาสเข้ามาในฮอลล์นี้โดยไม่มีแฟนคลับหรือคนนั่งในฮอลล์นี้ บรรยากาศในฮอลล์นี้ก็จะเป็นอีกเรื่องนึงเลย

         ส่วนภาพเซ็ตที่ 2 เป็นของชิ้นโปรดของมินกยู มี 3 รูป รูปแรกเป็นรูปนาฬิกา เป็นสิ่งที่ตื่นปุ๊บ ลืมตาปุ๊บ ก็จะเห็นมุมนี้ก่อนเลย จะชอบตอนที่วันถัดไปตื่นมาไม่มีงานเช้า ก็จะนอนไปเรื่อยๆ จนตื่นเอง รูปต่อมาเป็นรูปแมว ชื่อ ชีอาน ก่อนเล่าว่ามีแมว 3 ตัว ตัวที่เป็นน้องเล็กสุดชื่อชามิ ซึ่งน่าจะมาจากประเทศไทยเป็นแมวสยามพันธุ์ไทยของเรานั่นเอง เวลาเล่นกับชามิก็จะชอบพูดกับน้องว่า 'มาจากประเทศไทยใช่มั้ยครับ มาจากประเทศไทยเนาะ?' เอ็มซีเลยสอนให้พูดภาษาไทยกับเจ้าชามิซะเลยว่า "ชูก้าชูก้า รูน! หัวใจของเธอ ฉันขอได้ไหม" คริ คริ ส่วนรูปที่ 3 เป็น PS5 (เพลย์สเตชั่น) เป็นคนชอบเล่นเกมส์เวลาว่าง เพื่อนสนิทให้มาเป็นของขวัญ เป็นสิ่งที่ชอบมากๆ ก็เลยถ่ายรูปมาให้ดู

        ต่อมาเป็นภาพเซ็ตที่ 3 ที่เป็นรูปเบื้องหลังของมินกยู รูปแรก มาจากเรื่อง Heavenly Idol ถ่ายตอนที่นั่งบิวต์อารมณ์อยู่ ต้องอินมากๆ เป็นการนั่งเตรียมซีนต่อไป ส่วนรูปที่ 2 ก็ทำเอาแฟนๆ ใจบางไม่ไหว เมื่อได้เห็นมุมความเป็น “ทาสแมว” ของเขาคนนี้อีกครั้งเพราะเป็นภาพตอนกำลังเล่นกับเจ้าเหมียวตัวนึง ซึ่งเจ้าตัวบอกชอบแมวมากๆ เลย สถานที่ๆ ไปถ่ายทำมีแมวอยู่ก็เลยไปเล่นกับแมว เมื่อถามว่าทำไมถึงเป็นทาสแมว เจ้าตัวมีคำตอบสุดน่ารักทัชใจคนฟังว่า "แมว แค่อยู่บนโลกนี้ก็ถือเป็นความรักแล้ว" "แมวคือความรักอันยิ่งใหญ่บนโลกใบนี้" "ผมเป็นทาสแมว" ความจริงแล้วเขาชอบสัตว์ทุกชนิด แต่ชอบแมวที่สุด ฟังแล้วอยากยกตำแหน่งหัวหน้าทาสแมวให้ไปเลย ส่วนภาพที่ 3 เป็นภาพคล้ายโดนแอบถ่าย เลยไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็สรุปได้ว่า เป็นการถ่ายรูปเก็บเอาไว้เพื่อความคอนตินิวของเครื่องแต่งกายหรือเครื่องประดับต่างๆ เวลาถ่ายมันจะได้ไม่โดด เพราะในฉากเดียวกันอาจจะถ่ายคนละวัน หรือถ่ายสลับกันไปมา ภาพต่อมา ภาพที่ 4 เป็นคลิปแทะเม็ดทานตะวัน และในคลิปเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวได้ทานเมล็ดทานตะวันแบบแทะเอง ที่เคยทานมาจะเป็นแบบแกะมาแล้ว รู้สึกว่าอร่อยดี เค็มๆ ทานไปก็เพลินๆ ดี และคุ้นๆ ว่าไอ้ที่ทานอยู่นี่มาจากประเทศไทยเสียด้วย ส่วนภาพที่ 5 ก็เป็นคลิปตอนเซ็นลายเซ็น โดยในเรื่อง Heavenly Idol เจ้าตัวเล่นเป็นไอดอล ที่เห็นนี่เป็นซีนที่เซ็นบนซีดีอัลบั้มให้กับเพื่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เซ็นบนซีดี เพราะถ้าเป็นนักแสดงก็จะเซ็นบนโปสการ์ดที่มีรูปอะไรพวกนั้นมากกว่า ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ได้ลองเซ็นบนซีดี เป็นอะไรที่ดีมากๆ เพราะได้สื่อสารกับแฟนๆ ไปด้วย

         โมเมนต์แรกเรียกว่าเต็มไปด้วยน่ารัก ต่อมาด้วยโมเม้นต์ที่สองที่เต็มไปด้วยความฟินกับช่วง Drama Moment with Kim Min Gue (ช่วงเม้าท์ซีรีส์) เพราะนอกจากหนุ่มมินกยูจะมาเล่าถึงผลงานที่ผ่านมาของเขาอย่างซีรีส์ Business Proposal และ The Heavenly Idol ผลงานเรื่องล่าสุดแล้ว ช่วงนี้ยังได้เชิญแฟนคลับผู้โชคดีขึ้นมาแสดงบทบาทจากฉากประทับใจในซีรีส์อีกด้วย ก่อนอื่นมินกยูเล่าว่า เดบิวต์เป็นนักแสดงมา 10 ปีแล้ว เรื่องแรกจำได้ว่าตื่นเต้นมากๆ คิดอยู่ในใจเสมอว่าเราต้องทำให้ดีเพื่อที่จะไม่ทำให้งานของเขาเสีย หรือจะได้ไม่โดนดุ ตอนนั้นไม่มีบทที่ต้องพูด แค่เดินผ่านอย่างเดียวก็เกร็งมากๆ แล้ว จากนั้นก็มาดูซีนจากซีรีส์สองเรื่องที่จะให้แฟนๆ ร่วมเล่นเกมกัน โดยจะรวบรวม 3 ฉากประทับใจ แล้วให้แฟนๆ โหวตว่ามินกยูจะชอบฉากไหน ดูว่าใจของแฟนๆ กับใจของมินกยูตรงกันมั้ย

         เรื่องแรก Business Proposal ที่ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้แฟนๆ รู้จักมินกยูมากที่สุด คัดมา 3 ฉาก คือ 1. ฉากช่วยนางเอก (จิน ยองซอ) จากการโดนรถเฉี่ยว 2. ฉากจับมือ และ 3. ฉากขอแต่งงาน ทำเอาเอ็มซีโวยเบาๆ ว่าทำไมมีแค่ 3 ฉากนี้ จำได้ว่ามีฉากที่ร้อนแรงกว่านี้นี่นา พระเอกของงานเลยบอกว่า คิดว่าผมรู้ว่านะว่าเป็นฉากไหน 555 ดีเจนุ้ยเลยถามมินกยูว่าชอบฉากไหนที่สุด และคิดว่าแฟนๆ จะโหวตให้กับฉากไหน เจ้าตัวบอกว่าไม่ต้องดูคำตอบก็รู้เลยว่าฉากไหน "ผมว่าเดอะเบสต์ซีนในเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นฉากที่ทุกๆ คนกำลังคิดอยู่" ซึ่งเจ้าตัวก็คิดว่าแฟนๆ ชอบฉาก 1. คำตอบก็คือฉากแรก นั่นเอง สาเหตุก็อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นจูบแรกกับยองซอหรือเปล่า ส่วนเรื่องที่ 2 Heavenly Idol คัดมา 3 ซีนคือ 1. ฉากนางเอกถ่ายเซลฟี่โดยมีพระเอกโผล่หน้ามาใกล้ๆ 2. ฉากลูบหัวนางเอก และ 3. ฉากปลอบใจ เช็ดน้ำตานางเอก ทำเอาเอ็มซีข้องใจไม่เลิกว่ามีแค่ 3 ฉากนี้เหรอ แล้วฉากที่ใส่เสื้อตัวสั้นๆ เสื้อครอปท็อป ล่ะ 555 ที่สุดแล้วเจ้าตัวตอบหมายเลย 1 ซึ่งแฟนๆ ก็โหวตให้หมายเลย 1 นั่นเอง เรียกว่าเจ้าตัวตอบถูกทั้งสองข้อเลย

         ถึงช่วงเวลาสำคัญกับการให้ผู้โชคดีขึ้นมาแสดงฉากที่โดนโหวตมากที่สุดของแต่ละเรื่อง โดยทีมงานไปเล็งแฟนๆ เอาไว้ตั้งแต่หน้างานว่าใครมาในทรงของนางเอกแต่ละเรื่องบ้าง ซึ่งก็ได้ 2 คนที่แต่งตัวเหมือนตัวละครในฉากดังกล่าว คนแรกคือน้องเซริน สาวน้อย ม.4 ที่แต่งตัวมาเหมือนนางเอกในเรื่อง Business Proposal ความพิเศษคือสาวน้อยคนนี้เธอเรียนเอกเกาหลี เอ็มซีเลยให้พูดความในใจเป็นภาษาเกาหลีกับมินกยูซะเลย มินกยูชมว่าพูดภาษาเกาหลีเก่งมากเลยอีกต่างหาก ก่อนที่เซรินจะได้ร่วมแสดงกับมินกยูในฉากที่นางเอกเมาแล้วเดินโซซัดโซเซ พระเอกกระชากให้หลบรถก่อนเตือนว่า "ทำไมเดินอยู่คนเดียวระวังอันตรายนะ" เรียกเสียงกรี๊ดด้วยความอิจฉาจากสาวๆ ด้านล่างเวที ก่อนที่เซรินจะบอกความในใจทิ้งท้ายถึงมินกยูเป็นภาษาเกาหลีที่แปลได้ว่า "ไม่ว่าคุณมินกยูจะทำอะไร ก็จะคอยเป็นแฟนคลับที่ให้กำลังใจคุณอยู่เสมอ" เจ้าตัวขอบคุณอย่างซาบซึ้ง พร้อมบอกให้น้องตั้งใจเรียนภาษาเกาหลีนะครับ เรียกว่าได้แรงกระตุ้นกลับไปเต็มๆ ส่วนเรื่องที่ 2 The Heavenly Idol ผู้โชคดีชื่อน้องบีมาจากท่าพระ หนุ่มมินกยูเห็นแล้วถึงกับซูฮกในความเหมือนก่อนบอกว่าแต่งตัวเหมือนท่านมหาปุโรหิตเรมบรารี่ (Rembrary) เลย จากนั้นก็ได้เวลาเล่นละครจากฉากที่นางเอกถ่ายเซลฟี่แล้วมีพระเอกโผล่มาด้านหน้าแบบใกล้ๆ ใกล้สุดๆ ชนิดแฟนคลับสาวในฮอลล์ใจคอไม่ค่อยดี อิอิ จบจากการเล่นฉากประทับใจไปแบบฟินๆ มินกยูก็เผยว่ารู้สึกสนุกมากเลย แฟนๆ ชอบ แฮปปี้ เจ้าตัวก็แฮปปี้เหมือนกันว่างั้น

        แต่ความเซอร์วิสเซอร์ใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะในซีรีส์ The Heavenly Idol หนุ่มมินกยูเขารับบทเป็น “ท่านมหาปุโรหิตในคราบไอดอล” จึงต้องมีมิชชั่นเซอร์วิสแบบไอดอลกับช่วง Min Gue Moment : School โรงเรียนไอดอล เจ้าตัวเล่าก่อนเลยว่าตอนที่รู้ว่าได้รับบทนี้ก็แอบหวั่นเพราะเต้นไม่เป็น แต่ในเรื่องซีนที่ต้องเต้นมันน้อย ก็เลยไม่ต้องซ้อมเต้นหนักมาก ก่อนที่เอ็มซีจะแจงว่า โรงเรียนไอดอลของมินกยูจะมี 3 คาบที่จะได้เรียนรู้การเป็นไอดอล คาบแรก เรียนท่าโพส เอนดิ้ง แฟรี่ นั่นก็คือเวลาจบเพลงตัวไอดอลจะยืนค้างนิ่ง กล้องจะค่อยๆ อินเสิร์ทหน้าสมาชิกแต่ละคน บางคนจะยืนนิ่ง บางคนจะยืนหอบ หอบโชว์อะไรประมาณนี้ 555 โดยวันนี้กล้องที่มีจุดสีแดงจะคอยจับเอนดิ้ง แฟรี่ของมินกยู เจ้าตัวบอกว่าอันนี้ยากที่สุด เพราะเป็นนักแสดง เวลาแสดงก็จะเล่นบทบาทกับนักแสดงด้วยกันคือมองพาร์ทเนอร์ แต่ไอดอลต้องมองกล้องที่จับอยู่ มันยาก แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ยากเกินความสามารถของมินกยู ต่อด้วยคาบเรียนที่ 2 ช่วงเวลาไอดอล ปกติไอดอลจะมีแฟนเซอร์วิสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทักทายแฟนๆ หรือการส่งหัวใจ เพราะฉะนั้นไอดอลมินกยูจะต้องทำท่าหัวใจ 3 ท่าแต่ต้องแต่งตัวด้วยไอเทมที่กำลังฮอตอยู่ในเกาหลีทั้งคทา, มงกุฏ, สร้อย, ตุ้มหู, แหวน ฯลฯ ซึ่งมินกยูก็ใส่เกือบทุกไอเทมที่จัดมา หล่อ น่ารัก สไตล์ไอดอลพร้อมสรรพก็พร้อมส่งหัวใจให้แฟนๆ 3 ท่าเป็นแฟนเซอร์วิสทันที ทำเอาแฟนๆ ใจสั่นไปกับความน่ารัก มาถึง คาบเรียนที่ 3 ภาษารอบโลก ยุคนี้เป็นยุคโกลบอล ภาษาต้องได้ แต่ก่อนอื่นมาประเทศไทยต้องเช็คภาษาไทยกันนิด ซึ่งเจ้าตัวก็จัดมาแบบคล่องแคล่วว่า "สวัสดีครับ ขอบคุณครับ รักนะ ยายกินลำไย น้ำลายยายไหลย้อย" ประโยคหลังเรียนมาจากงานแฟนมีตติ้งครั้งที่แล้ว จำแม่นอยู่ในหัวตลอดเลย และครั้งนี้ดีเจนุ้ยก็จัดคอร์สเรียนภาษาไทยแบบรวบรัดด้วยการสอนร้องเพลงที่เมโลดี้เหมือนของเกาหลี เนื้อหาเกี่ยวกับแมวที่มินกยูชอบเลย นั่นก็คือ "หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ขนมันดูคล้ายสำลี" เจ้าตัวเลยฮัมเพลงเกาหลีที่มีทำนองเดียวกันให้ฟัง ซักซ้อมกันพอสมควรแล้วก็ให้เจ้าตัวร้อง ซึ่งคล่องพอสมควรเลยทีเดียว เอาเป็นว่าเทคเดียวผ่าน แต่เจ้าตัวร้องให้ฟังถึง 2 รอบ ก่อนที่จะร้องคลอไปกับแฟนๆ อีกรอบ จบมิชชั่นนี้หนุ่มมินกยูก็ได้เพลงไทยกลับไปร้องให้บรรดาน้องเหมียวที่บ้านฟังแล้ว

         เกมสนุกๆ ยังไม่หมดเท่านั้นนะ เพราะหลังจากเปลี่ยนชุดกลับขึ้นมาด้วยลุคใหม่ที่ดูหล่อเหลาสุดอบอุ่นแล้ว ก็ได้เวลาเล่นเกมส์กันอีกช่วง ซึ่งได้จับผู้โชคดีไว้แล้ว รางวัลคือหมวกพร้อมลายเซ็นมินกยู ผู้โชคดีคนแรกน้องแก้ม ที่แต่งตัวมาเป็นยมทูตจะต้องเล่นเกมจับคู่กระโดดเชือก คือให้กระโดดเชือก 2 คน พร้อมกันกับมินกยู ขอแค่ 5 ครั้งก็ถือว่ามิชชั่นคอมพลีท โดยก่อนทำพระเอกของเราให้กำลังใจน้องแก้มว่า "ทำได้อยู่แล้ว สู้ๆ เยี่ยมจริงๆ" แต่ทว่ากระโดดเชือกพร้อมกัน 2 คนทำได้ 3 ครั้ง แต่กระนั้นมินกยูสุดหล่อใจดีกลับบอกว่ารู้สึกได้ว่าคุณแก้มทำเต็มที่ๆ สุดแล้ว ก็เลยให้หมวก+ลายเซ็นเป็นที่ระลึกไป แม้จะทำมิชชั่นไม่สำเร็จก็ตาม ส่วนเกมที่ 2 เป็นเกมสัมผัส ผู้โชคดีคือน้องมายด์ จะต้องใช้ 1 มือล้วงในกล่องพร้อมๆ กันกับมินกยู (แต่คนละข้าง) แล้วทายว่าสิ่งของที่ล้วงคืออะไร ใครตอบถูกก่อนคนนั้นชนะ มายด์ตอบปีโป้ มินกยูที่ล้วงทีหลังตอบเจลลี่ แต่ทว่าน้องมายด์ตอบถูกก่อน มินกยูถึงกับเดินมาดูปีโป้ก่อนบอกว่าเคยทานเพราะมีคนให้มา เพราะฉะนั้นมายด์ตอบถูกก่อนได้หมวก+ลายเซ็นไป ส่วนผู้โชคดีคนที่ 3 น้องเจษที่มินกยูบอกว่าเหมือนเพื่อนสมัยเรียนของเขาที่ชื่อคยูเทเลยจะต้องประลองกับมินกยูในเกมลิมโบ ใครตัวอ่อนกว่าหรือต่ำที่สุดคนนั้นเป็นฝ่ายชนะ แข่งขันไปเรื่อยๆ 2 ขั้นก็ผ่านทั้งสองคน แต่ขั้น 3 มินกยูไม่ผ่าน น้องเจษเลยเป็นอีกคนที่ได้หมวก+ลายเซ็นไป

         ของขวัญจากหนุ่มมินกยูยังไม่หมดเท่านั้น เพราะเขาตั้งใจจะทำพวงกุญแจ (Key Ring) ให้แฟนๆ กับช่วง ในช่วง Custom ของมินกยู ที่เจ้าตัวตั้งใจจะลงมือทำเองกับมือ เป็นของขวัญที่มีชิ้นเดียวในโลก และจะทำแบบน่ารักๆ ให้เข้ากับหน้าตาว่าวั้น ทำไปก็คุยไป เจ้าตัวบอกว่าพวงกุญแจชิ้นนี้มีร้อยตัวอักษรเป็นคำว่า 'รักนะ' สุดหล่อยังถามว่า มีแฟนคลับคนไหนเคยมาหาเขาที่งานแฟนมีตครั้งที่แล้วบ้าง ระหว่างการทำพวงกุญแจนี้ก็เปิดโอกาสให้แฟนๆ ถามคำถามหนุ่มมินกยูไปด้วย มีแฟนๆ ถามว่าเวลาทำคิดถึงใครเป็นพิเศษหรือเปล่า เจ้าตัวบอกก็แฟนๆ ของผมไงครับ ทำเสร็จแล้วก็จะให้แฟนๆ นี่แหละ มีแฟนๆ ถามด้วยว่าทานเผ็ดได้รึยัง เจ้าตัวยบอกแน่นอนอยู่แล้ว ชอบทานพริกขี้หนูไทยด้วยนะ มีแฟนๆ ถามอีกว่า กินมะม่วงหรือยัง มินกยูบอกทานแล้ว มาถึงก็ทานเลย มะม่วงอร่อยมาก ได้ทานข้าวเหนียวมะม่วงด้วย เจ้าตัวชอบมะม่วง แต่สำหรับข้าวเหนียวมะม่วงทานยากนิดนึงหรับเขา คุยไปคุยมาไม่นาน มินกยูก็ทำเสร็จพอดี ว่าแล้วก็อวดฝีมือตัวเองให้แฟนๆ ได้ดู น่ารักสมหน้าตาคนทำเลยเพราะมีทั้งรอยยิ้ม, ดวงดาว, หัวใจ เขาอยากให้แฟนคลับมีแต่รอยยิ้มก็เลยใส่ตัว smile ลงไป ส่วนใครจะเป็นผู้โชคดีนั้น มินกยูได้เลือกด้วยตัวเองจากที่นั่งตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน ปรากฏว่าแจ็คพอตเป็นของสาวกัมพูชาที่เรียนอยู่ที่เมืองไทย ซึ่งแฟนๆ ในฮอลล์ก็ปรบมือให้กับความโชคดีของสาวจากบ้านใกล้เรือนเคียงอีกด้วย

         จบจากการทำของขวัญให้แฟนๆ แล้ว เอ็มซีบอกว่ายังเหลืออีก 1 เกม มินกยูบอกว่า ผมน่ะแฮปปี้มากๆ เพราะการได้อยู่กับแฟนคลับแบบนี้เป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้มากๆ สำหรับผม งั้นก็ต้องเข้าสู่ช่วง Gue Can Do It (กยูทำได้) กันแล้วล่ะ โดยเกมนี้มีเวลา 60 วินาทีสำหรับการเล่นเกม 3 เกม ถ้าทำ 3 เกมนี้ผ่านไปได้ภายใน 60 วินาที มินกยู ก็จะได้รับความชื่นชมจากแฟนๆ ว่า "เยี่ยมจริงๆ" (3 ครั้ง) เกมแรกคือเกมพลิกขวด หรือโยนแล้วให้ขวดตั้ง ซึ่งมินกยูทำได้เพียงแค่ลองครั้งแรกเท่านั้น 2. เกมเดาะลูกปิงปอง (ให้ได้ 10 ครั้ง) 3. เกมหมัดจิ๋ว ใช้นิ้วดีดไปที่อุปกรณ์ให้ได้ 900 คะแนน ปรากฏว่าเจ้าตัวทำได้สูงถึง 975 คะแนน โดยทั้งสามเกมทำให้ได้ภายใน 60 วินาที สรุปว่าทำสำเร็จ จนได้รางวัลจากแฟนๆ คือคำชมว่า "เยี่ยมจริงๆ (3 ครั้ง)" ก่อนที่จะบอกว่าเมื่อทำมิชชั่นนี้สำเร็จก็อยากจะมอบของขวัญให้แฟนๆ อีกด้วย ว่าแล้วก็ขอตัวไปหลังเวที ก่อนจะกลับขึ้นมาอีกครั้งในลุคที่พูดได้ว่า “พระเอกคนอื่นขี่ม้าขาว แต่หนุ่มมินกยูนั้นขี่ไดโนเสาร์” แต่จะเป็นภาพแบบไหน เฉพาะแฟนคลับในแฟนมีตฯ ครั้งนี้เท่านั้น ที่จะได้เห็นภาพสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้

         เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาสุดท้ายของงานแฟนมีตติ้งครั้งนี้ เจ้าตัวเปิดใจว่า "วันนี้สนุกมากๆ เลย มีความสุขมากๆ เลย วันนี้แฟนๆ มากันเยอะมาก จากแฟนมีตครั้งที่แล้ว เวลามันก็ผ่านไป 1 ปีแล้ว ขอบคุณที่รอผมและรักผมอย่างสม่ำเสมอนะครับ" ส่วนหลังจากนี้จะมีอะไรให้ติดตามอีกเจ้าตัวบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าจะเมื่อไหร่ อะไร ยังไง แต่ก็อยากจะบอกทุกคนว่าจะตั้งใจทำงานเพื่อตอบแทนความรักของแฟนๆ ด้วยบทบาทใหม่ๆ ก็เลยอยากลองถ่ายทำอะไรใหม่ๆ อยากให้ทุกคนติดตามและอยู่เคียงข้างแบบนี้ ก่อนกล่าวความรู้สึกถึงแฟนๆ ชาวไทยว่า "อยากบอกรักทุกคนนะครับ รู้สึกดีใจมากๆ ที่พวกเราได้มีโอกาสใกล้ชิดกันแบบนี้ หวังว่าจะมีโอกาสแบบนี้บ่อยๆ สัญญาว่าจะตอบแทนความรักทุกคนด้วยบทบาทใหม่ๆ ผลงานใหม่ๆ ขอบคุณมากครับ" จากนั้นก็ได้เวลา Photo Time ถ่ายรูปกับแฟนๆ แต่ระหว่างนั้นหนุ่มมินกยูที่มอบความสุขให้แฟนๆ ไปอย่างเต็มอิ่ม ก็ถึงเวลารับพลังงานแบบบวกๆ จากแฟนๆ กลับไปบ้าง กับการเซอร์ไพรส์พระเอกของงานด้วยคลิปวิดีโอแฟนโปรเจกต์ที่เหล่าแฟนคลับจัดทำขึ้นมา เพื่อเล่าเรื่องราวความรัก ความประทับใจ ความภูมิใจที่พวกเขามีต่อหนุ่มมินกยู ทำเอาเจ้าตัวซาบซึ้งสุดๆ กับคลิปที่ทำออกมาจากหัวใจของแฟนๆ แถมเมื่อหันกลับมาก็ยังเจอป้ายโปรเจ็กต์ที่เขียนว่า ✨ 항상 곁에있을게요~ 우리 민규 화이팅! ✨ We will always be here beside you~ Kim Min Gue Fighting! ที่มีความหมายว่า "พวกเราจะคอยอยู่ข้างๆ คุณมินกยูเสมอนะ สู้ๆ" ทำเอาเจ้าของงานบ่อน้ำตาแตก เสียน้ำตาหนักมาก เจ้าตัวขอบคุณแฟนๆ ทั้งน้ำตาว่า "ไม่ได้อยากจะร้องไห้เลยนะครับ จริงๆ เห็นแฟนโปรเจ็กต์แล้วมันกลั้นน้ำตาไม่ได้เลย" เอ็มซีช็อตฟีลขึ้นมาว่า มินกยูเตรียมเพลงมาอีก 100 เพลงเลยนะ 555 เจ้าตัวบอกนี่ผมร้องไห้แล้วจะร้องเพลงยังไงล่ะทีนี้ โดยเพลงส่งท้ายเป็นเพลงประกอบละคร Heavenly Idol ชื่อเพลง 'Suddenly' ที่ร้องไปจนเกือบจบเพลงก็ร้องต่อแทบไม่ได้ เพราะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง จบเพลงมินกยูเผยความรู้สึกไปด้วยสะอื้นไปด้วย

         “ความรู้สึกของผมตอนนี้ไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ยังไง มันประทับใจ ซาบซึ้งใจมากๆ ครับ ผมไม่ได้เป็นคนที่ร้องไห้เก่งขนาดนี้นะครับ แต่ว่ามันเป็นความรู้สึกที่อธิบายเป็นคำพูดยากมากๆ เลย ถ้าไม่เจอกับสถานการณ์หรือบรรยากาศแบบนี้ก็อาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกของผมที่รู้สึกในตอนนี้ แต่หวังว่าผมกับแฟนๆ ทุกคน จะอยู่ในความรู้สึกดีๆ แบบนี้ด้วยกันไปนานๆ นะครับ ขอบคุณทุกๆ คนที่มางานวันนี้นะครับ วันนี้เป็นวันที่ทุกๆ คนมีความสุขเหมือนผมใช่ไหมครับ เพราะทุกคนมางานวันนี้ ผมเลยได้สร้างความสุขไปพร้อมกับทุกคน (ภาษาไทย) “รักทุกคนมากๆ ครับ แล้วพบกันใหม่นะครับ”

         เรียกว่ามินกยูจัด “Heavenly Moment” ให้แฟนๆ ชาวไทยแบบจุกๆ ทั้งสนุกสนานขั้นสุด ฟินเกินบรรยาย และปิดท้ายไปด้วยบรรยากาศสุดซึ้งที่มีน้ำตาแห่งความประทับใจ แล้วกลับมาใหม่อีกครั้งนะคะ 'คิม มินกยู'

 

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้