สนุก มันส์ ซึ้ง ฮา! ครบรสตามสไตล์ 'เพื่อนบี' คนคูล พร้อมออดอ้อน "รอผมกลับมานะ"! ในคอนเสิร์ต “JAY B” Encore in BANGKOK

Last updated: 2 ก.พ. 2566  | 

สนุก มันส์ ซึ้ง ฮา! ครบรสตามสไตล์ 'เพื่อนบี' คนคูล พร้อมออดอ้อน "รอผมกลับมานะ"! ในคอนเสิร์ต “JAY B” Encore in BANGKOK

         ฟินกันทั้งฮอลล์! กับคอนเสิร์ตปิดท้ายเวิลด์ทัวร์ในประเทศไทยกับงาน “2022 WORLD TOUR JAY B TAPE: PRESS PAUSE ENCORE IN BANGKOK” ซึ่งถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 21-22 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ที่ระเบิดความสนุกจัดเต็มเกือบ 3 ชั่วโมง เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ได้ไม่มีแผ่วแบบนอนสต็อป พร้อมการันตีความปังด้วยทีมผู้จัดเจ้าเก่าเจ้าเดิมอย่าง BEX (กรุงเทพ เอ็กซิบิชั่น) บริษัทในเครือเวิร์คพอยท์กรุ๊ป ร่วมกับ YJ PARTNERS (วายเจ พาร์ทเนอร์ส) และ PROUD2 (พราวด์ทู) ผู้จัดคู่บุญที่เคยสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ มาแล้ว ครั้งนี้ก็ยังรักษามาตรฐานได้เป็นอย่างดี โปรดัคชั่น แสง สี เสียงสุดอลังการ ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง ด้วย Song List สุดพิเศษจัดเต็มมากกว่า 30 เพลง พร้อมเวทีที่ออกแบบเอง โดยหนุ่ม “JAY B” ก็สุดใกล้ชิดยิ่งกว่าคอนเสิร์ตไหนๆ เรียกได้ว่าสมมง เพราะจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวที่ประเทศไทยมากถึง 5 รอบการแสดง แต่บัตรก็ “SOLD OUT” หมดทุกที่นั่งกันไปเลย!

         เปิดพาร์ทแรกด้วยบทเพลงสุดไพเราะตามสไตล์ของ “JAY B” ซึ่งแม้จะเป็นการกลับมาภายใต้การเวิลด์ทัวร์เดิม แต่คอนเสิร์ต ENCORE ในครั้งนี้ก็ได้มีการเรียบเรียงลำดับเพลงขึ้นใหม่ ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว ทุกพาร์ทการแสดงไม่มีดร็อป มีแต่เพิ่มความสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยขนทัพเพลงฮิต และเพลงในดวงใจเหล่าแฟนคลับทุกคนมาแบบครบถ้วน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเซอร์ไพรส์พิเศษกับหลายๆ บทเพลงที่ไม่เคยร้องที่ไหนมาก่อนอีกด้วย เรียกเสียงกรี๊ดฮอลล์แทบแตก!

         หนุ่มเจบีเปิดเวทีด้วยเพลง "Sunrise" ตามมาด้วย "I Just Wanna Know" และ "Like a Fool" จากนั้นก็พักทักทายฟนๆ อยา่งเป็นทางการ "สวัสดีครับ ผมเจบีครับ" พร้อมบอกว่าสภาพร่างกายวันนี้ (22 มกราคม) นั้นเจ้าตัวพร้อมมากและคิดว่าวันนี้แฟนๆ ทุกคนก็น่าจะพร้อมมาสนุก เจ้าตัวยังบอกว่า 3 เพลงที่ร้องไปอย่าง Sunrise รวมไปถึงเพลง I Just Wanna Know และ Like a Fool เป็นเพลงของ Def. (เดฟ) ซึ่งเป็นอีกชื่อของเจบีในการทำเพลง โดยบรรจุอยู่ในอัลบั้ม LOVE ของ Def. นั่นเอง โดยวันนี้มีเพลงของ Jay B เยอะ และก็มีเพลงของ Def. หลายเพลง ก่อนที่เจ้าตัวจะสรุปว่า "เป็นคอนเสิร์ตของ Def. Jay B แล้วกันนะครับ" เจ้าตัวยังออดอ้อนแฟนๆ เป็นภาษาไทยว่า "ขอเสียงหน่อย" ก่อนเปิดใจต่อว่าไม่เคยคิดว่าจะมีคอนเสิร์ตอังกอร์สองวันแบบนี้ รู้สึกโชคดีมากๆ วันนี้ก็เลยใส่กางเกงที่ทุกๆ คนชอบมากมาสมนาคุณกันเลย เป็นกางเกงยีนส์สไตล์ขาดๆ ขัดใจคุณพ่อ แต่หลังจากวันนี้เจ้าตัวบอกว่าคงใส่ไม่ได้เพราะอัปป๊านั่งดูอยู่ตรงนั้น ท่านไม่ค่อยชอบกางเกงสไตล์แบบนี้ เคยทะเลาะกับคุณพ่อเรื่องกางเกงมาแล้วอีกต่างหาก คุณพ่อไม่ค่อยชอบรับในสไตล์ของลูกชายว่างั้น แต่วันนี้ก็เริ่มยอมรับแล้วเพราะเห็นว่าลูกชายโตขึ้น แต่ปัญหาตอนนี้เจ้าตัวบอกว่าเหมือนกางเกงจะขาดแล้ว 555 เอาเป็นว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ใส่กางเกงตัวนี้เพราะหลังจากนี้ก็จะเก็บไว้ที่บ้าน แต่ถ้าเอาไปไว้ที่บ้าน คุณพ่อคงเอาไปทิ้งแน่ๆ ก็เลยจะเก็บไว้ที่บ้านตัวเอง ไม่เก็บไว้ที่บ้านพ่อแม่หรอก 555

         จากนั้นก็ต่อด้วยบทเพลงสนุกๆ อีกเซ็ตใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น "B.T.W", "Livin'", "The Way We Are", "Fountain of Youth", "Dive into You" ที่เป็นเพลงประกอบละครเรื่อง Crazy Love, "Forever Love", "Fame", "Want You" ถึงจะเบรคมาเม้าท์มอยกับเหล่าอากาเซ่อีกครั้ โดยเจ้าตัวถามเป็นภาษาไทยว่า "สนุกมั้ยครับ" ก่อนจะบอกว่าเพลง Forever Love เนี่ยไม่ได้ร้องมานานมากแล้ว ช่วงนี้ที่ได้ร้องเพลงนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองร้องเพลงได้ดีขึ้น ตอนอัดเพลงนี้ที่โน้ตสูงก็คิดว่าจะร้องยังไงดี เพราะโทนเสียงตอนนี้กับตอนนั้นก็ไม่เหมือนกันแล้ว เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน เลยสรุปว่าจะเปลี่ยนโทนอีกครั้งนึง พร้อมสัญญากับตัวเองว่าจะพัฒนาจะอัพเกรดไปเรื่อยๆ ก่อนจะเฉลยความลับหนึ่งอย่างว่าตอนจบเพลง Fountain of Youth เมื่อวาน (คอนเสิร์ตวันแรก 21 มกราคม) ตอนจบเพลงแล้วผลุบลงไปใต้เวทีนั้นไม่ได้ทำท่าอะไรตอนหล่นพรึ่บลงไปเลยรู้สึกเขินนิดนึง วันนี้ก็เลยเตรียมท่าแบบเมื่อกี๊ ซึ่งพอทำปุ๊บก็คิดในใจเลยว่า 'ไม่ได้เป็นพาวเวอร์เรนเจอร์นะ' 555 ก่อนถามต่อว่าในฮอลล์นี้มี 'คู่รัก' มั้ย เพราะเจ้าตัวมีเพลงที่อยากแนะนำให้คู่รักฟังกันไม่ว่าจะเป็น Fame หรือ Want You เป็นเพลงที่เขียนตอนหน้าหนาว ประมาณว่าเดินๆ อยู่แล้วก็เห็นผู้ชายคนนึงซื้อดอกไม้ ก็จินตนาการไปว่าเขาซื้อดอกไม้ไปขอแต่งงานหรือบอกรักหรือเปล่า พร้อมแนะนำว่าถ้ามีคนที่เรารักก็แนะนำเพลงนี้ให้เขาฟังนะครับ เพลงทั้งหมดที่ร้องจนถึงเพลงเมื่อตะกี๊เป็นเพลงที่แนะนำให้ฟังชิลล์ๆ ตอนสักบ่ายๆ แต่หลังจากนี้ไปก็จะเข้าช่วงเย็นแล้ว ก็จะเปลี่ยนบรรยากาศกันนิดนึง

         เซ็ตเพลงเย็นของหนุ่มเจบีก็จัดมาจุกๆ ทั้ง "Why", "AM PM", "Count On Me" โดยที่เพลงนี้มีเซอร์ไพรส์ตรงหนุ่มเจบีขึ้นรถเลื่อนไปทักทายแฟนๆ ทั่วทั้งฮอลล์อย่างใกล้ชิดพร้อมโยนลูกบอลที่มีลายเซ็นให้แฟนคลับได้เก็บเป็นที่ระลึกอีกด้วย ซีนนี้ชนะใจแฟนคลับไปเต็มๆ เพราะแม้สถานที่จะใหญ่ขึ้น และแฟนๆ จะอยู่ไกลแค่ไหนแต่ก็คุ้มค่าทุกที่นั่งแน่นอน! นอกจากนี้ก็ตามด้วยเพลง "In To You", "Switch It Up", "Hush" ที่หนุ่มเจบีก็เซอร์ไพรส์รอบสองด้วยการขึ้นรถเลื่อนไปทักทายแฟนๆ พร้อมแจกลูกบอลพร้อมลายเซ็นกันอีกสักครั้ง รวมไปถึงเพลง "You Say" และ "My Abandoned Love"

         พักทักทายกันอีกสักรอบเจ้าตัวถามก่อนเลยเป็นภาษาไทยว่า "ชอบมั้ยครับ?" พร้อมเฉลยว่าเป็นประโยคที่พี่ล่ามสอนภาษาไทยมาก็เลยมาพูดให้ทุกคนฟัง พูดแล้วก็เขิน ก่อนจะย้ำเป็นภาษาไทยตามพี่ล่ามว่า "เขินอ่ะครับ" พร้อมเล่าว่าเพลง You Say และเพลง My Abandoned Love ก็เป็นเพลงของ Def. เหมือนกัน อยู่ในอัลบั้ม Abandoned Love ตอนนั้นทำอัลบั้มพร้อมๆ กันสองอัลบั้มเลย อัลบั้มนึงก็จะพูดถึงเรื่องความรัก อีกอัลบั้มก็จะพูดถึงความรักที่โดนทิ้ง ก่อนถามต่อว่าไม่แน่ใจว่ามีคนรู้รึเปล่าว่าใน Abandoned Love เสียงกีตาร์ที่ได้ยินนั้นมาจากเสียงกีตาร์จากอัลบั้ม Love นะ ซึ่งที่พูดมาเนี่ยเจ้าตัวบอกว่าก็แค่อยากอวดว่ามาจากเสียงเดียวกัน แต่ใดๆ ก็ตาม ทั้งหมดเป็นแค่ฟิคชั่นนะจ๊ะ เวลาทำอัลบั้มหรือเขียนเพลงก็จะเหมือนเขียนนิยาย อยากจะบอกกับทุกคนว่า "ผมไม่ได้เป็น loser พ่ายแพ้ในเรื่องความรักอะไรขนาดนั้น ผมเป็นคนคูลมาก บางทีก็มีความ loser นิดนึง แต่ว่ากับเมมเบอร์ของเราเท่านั้นนะ ผมเป็นคนคูลมากๆ เลย"

         ทักทายแฟนๆ พร้อมดื่มน้ำไปขวดนึงแล้วเจ้าตัวก็ไปต่อกับบทเพลงอย่าง "Right", "My Bad", "숨소리(Toiki)" รวมไปถึง "Again" จบแล้วก็มาพูดคุยกันอีกครั้ง โดยเจ้าตัวบอกว่าเพลง Again จริงๆ แล้วท่อนแร็พเขาไม่ได้เป็นคนแร็พ แต่ในคอนเสิร์ตแบบนี้ก็เลยแร็พเองไปด้วยเลย ก่อนบอกต่อว่าในอนาคตก็น่าจะได้มีโอกาสแร็พเยอะขึ้น...แต่น่าเสียดายที่ความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอเมื่อเจ้าตัวบอกว่าตอนนี้เหลือแค่เพลงสุดท้ายแล้ว ที่ผ่านมาเหมือนเจบีกับแฟนๆ ใช้เวลา 1 วันด้วยกันเพราะเริ่มต้นคอนเสิร์ตด้วยเพลง Sunrise (พระอาทิตย์ขึ้น) เพลงต่อไปก็จะมีคำว่า Sunset (พระอาทิตย์ตก) อยู่ด้วย ก่อนบอกต่อว่าเมื่อวานและวันนี้เจ้าตัวตั้งใจคิดมามากๆ เพื่อที่จะมอบให้ทุกๆ คน อยากให้ทุกคนจดจำวันนี้ที่เราได้อยู่ด้วยกัน เมื่อไหร่ที่คิดถึงเขาก็อยากให้ทุกคนกลับไปฟังเพลงตามเพลย์ลิสต์ หวังว่าสตอรี่ไลน์ที่เจ้าตัวตั้งใจเตรียมมาให้ทุกคนได้ดูและได้รู้สึกจะสามารถสื่อไปถึงใจของทุกคน ย้ำอีกครั้งว่าเพลย์ลิสต์ทั้งหมดนำไปฟังตอนนั่งรถน่าจะดีมากๆ เลย เวลาเริ่มวันใหม่ เวลาไปทำงาน ก็ฟังเพลง Sunrise หลังจากเสร็จทุกอย่างเลิกงาน ก็ฟังเพลงเซ็ต Sunset ก็น่าจะดีมากๆ เลย อยากให้เขาเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คน ว่าแล้วก็ชวนทุกคนฟังเพลงสุดท้าย "Sunset with You"

        แน่นอนว่า แฟนๆ ไม่ยอมให้เจบีกลับ ช่วยกันตะโกนเรียกชื่อเจ้าตัวให้กลับขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่ผิดหวังหนุ่มคูลกลับขึ้นเวทีด้วยลุคเสื้อยืดสีดำสกรีนลายคอนเซ็ปต์เวิลด์ทัวร์ในครั้งนี้พร้อมกับเพลง "Holiday", "Rocking Chair" ซึ่งเพลงหลังนี้ทั้งฮอลล์พร้อมใจกันเปิดแฟลชสีขาว และปาจรวดที่แอบพับกันมาพร้อมเขียนข้อความสื่อความรักส่งถึงคนบนเวที ทำเอาเจ้าตัวยิ้มแก้มแทบปริ ซึ่งจบเพลงนี้เจ้าตัวบอกว่า เห็นจรวดแล้วก็นึกถึงตอนเด็กๆ และก็นึกถึงตอนพับนกด้วย จากนั้นเจ้าตัวก็ขอถ่ายรูปคู่โปรเจ็กต์ที่แฟนๆ ชูขึ้นมาระหว่างเพลง Rocking Chai ที่มีความหมายเป็นภาษาไทยว่า "ไม่ว่าเมื่อไหร่ แจบอมก็คือที่สุดในใจพวกเราเสมอนะ" ก่อนจะบอกว่า "ผมว่าทุกๆ คนนี่แหละที่ทำให้ผมเป็นที่สุดในใจทุกๆ คน อย่างที่ทุกคนในโปรเจ็กต์ ผมบอกตรงๆ นะครับว่า ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพวกเราจะกลับมาครบทุกคนได้เมื่อไหร่ แต่พวกเราก็พยายามคุยกันอยู่ พวกเราพยายามเต็มที่กันอยู่นะครับ เชื่อใจพวกเรานะครับ สำหรับผมก็จะมีช่วงนึงที่มาหาทุกคนไม่ได้ ผมก็คุยกับเมมเบอร์ตลอดว่าพวกเราทำอะไรตอนที่ผมอาจจะต้องไม่อยู่ก็ไม่เป็นไรนะ อยากให้ทุกคนรักอัลบั้มเดี่ยวของเมมเบอร์ทุกคนด้วยนะครับ ที่ผ่านมาผมก็มีงานเดี่ยวให้ทุกคนได้เห็นได้ฟังกันแล้ว ใจผมก็อยากจะกลับมาหาทุกคนในฐานะกรุ๊ปพร้อมๆ กันเลย แต่ว่าเพื่อความหวังของทุกคนผมสัญญาว่าจะตั้งใจเต็มที่เลย ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ผมและพวกเราทุกคนนะครับ เพลงต่อไปเป็นเพลงที่อยากจะมอบให้ทุกๆ คนเป็นของขวัญนะครับ" ซึ่งเพลงที่ว่าก็คือ "잠시만 (팬송 미발매곡)"

         ซึ่งเหล่าแฟนคลับต่างก็ทราบกันดีว่าหลังจากจบการเวิลด์ทัวร์ในครั้งนี้ หนุ่มเจบีอาจจะต้องหายหน้าหายตากันไปซักพัก เลยได้เตรียมเซอร์ไพรส์ใหญ่ด้วยบทเพลงดังกล่าวที่แปลได้ว่า "อีกแค่ไม่นาน" โดยมีท่อนฮุคสุดกินใจความหมายลึกซึ้งว่า "รอผมหน่อยนะ มันไม่นานหรอก อีกแค่ไม่นาน ผมจะได้กลับมาอยู่ข้างๆ คุณ" เพลงพิเศษที่เพื่อนรักคนนี้ตั้งใจเขียนบอกความรู้สึกถึงแฟนๆ ที่เค้ารักมากที่สุด ซึ่งจบเพลงเจ้าตัวก็กล่าวด้วยความซาบซึ้งว่าแบบที่เจ้าตัวเขียนในเนื้อเพลงนั่นแหละที่ว่า 'สัญญาว่าจะกลับมา' ก่อนที่จะกล่าวเป็นภาษาไทยว่า "รอผมกลับมานะ" พร้อมย้ำว่า เขาเป็นคนมีนิสัยไม่ค่อยสัญญาง่ายๆ ก็เลยเกรงใจที่จะให้ทุกคนสัญญากับเขา แต่อยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพ มีแต่เรื่องที่ดี มีแต่เรื่องแฮปปี้ เจ้าตัวจะได้กลับมาหาทุกคนพร้อมกับสายลมช่วงใบไม้เปลี่ยนสีด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะเบรคอารมณ์เศร้า ดำดิ่งที่ต้องจากลา ด้วยการบอกว่าจะจบคอนเสิร์ตแบบเศร้าแบบนี้ไม่ได้นะ ทุกคนพร้อมที่จะมันส์กันมั้ย? พร้อมชวนแฟนๆ โดดและกรี๊ดให้ดังสุดเสียงกับเพลงต่อไปอย่าง "Break it Down" และ "go UP" รวมไปถึงมันส์สุดเหวี่ยงไปกับ "Go Higher" ที่เอาน้ำสาดแฟนๆ รวมไปถึงสาดกันเองกับแดนเซอร์บนเวทีพร้อมมีช็อตที่ทำสาวๆ แทบหัวใจวายกับถอดเสื้อโชว์หุ่นและกล้ามเนื้อหน้าท้องสุดโอโม่ ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยเพลง "Before The Full Moon Rises" และกล่าวขอบคุณทุกคนที่มาในงานวันนี้พร้อมสัญญา "ครั้งหน้าจะกลับมาด้วยงานที่สนุกมากยิ่งกว่านี้นะครับ"

         เรียกได้ว่างานทั้ง 2 รอบการแสดงประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมากๆ คอนเสิร์ตเดี่ยวในประเทศไทยในฐานะศิลปินเดี่ยวของ “JAY B” ผ่านพ้นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยแฟนคลับชาวไทยก็ให้คำสัญญาว่าเราทุกคนจะรออยู่ตรงนี้เสมอ ไม่ไปไหนแน่นอน จนกว่าจะพบกันใหม่ ถ้าเราคิดถึงกันก็ให้มองขึ้นไปที่ท้องฟ้า เพราะ “ดวงดาว” จะโอบกอด “พระจันทร์” เสมอ

         และหากไม่อยากพลาดทุกความเคลื่อนไหวของผู้จัดงาน สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทุกช่องทางออนไลน์ที่ Official Facebook : BEXConcert / Twitter: @BEX_Concert

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้